• หน้าแรก
  • บทความ
  • ปรับลุคสาวตาตี่ ตาชั้นเดียว ให้เป็นตาสองชั้นด้วยวิธีไหนได้บ้าง
ปรับลุคสาวตาตี่ ตาชั้นเดียว ให้เป็นตาสองชั้นด้วยวิธีไหนได้บ้าง

ปรับลุคสาวตาตี่ ตาชั้นเดียว ให้เป็นตาสองชั้นด้วยวิธีไหนได้บ้าง

30 พ.ย. 2566   ผู้เข้าชม 33

ลักษณะของตาตี่ ตาชั้นเดียวเป็นแบบไหน

หลาย ๆ คนอาจสงสัย ตาแบบไหนเรียกกว่า “ตาตี่หรือตาชั้นเดียว“ ตาเล็ก ๆ แบบเราใช่ตาตี่ไหมนะ ? มาไขข้อสงสัยกัน อาการตาตี่หรือตาชั้นเดียว จะมีลักษณะ หัวตาปิดหรือหางตาปิด หนังตาตกกว่าคนปกติ  ไม่มีชั้นตา ถึงแม้ว่าจะใช้เครื่องมือเลิกเปลือกตาออก ก็ยังมีลักษณะดวงตาเล็ก ตาตี่หรือตาชั้นเดียว อยู่ดี ตาลักษณะนี้บางครั้งถูกเรียกว่า “ตาตี๋” หรือ “ตาอาหมวย” นั่นเองค่ะ


ปัจจัยใดบ้างที่ก่อให้เกิด ตาตี่ ตาชั้นเดียว 

สาเหตุของการตาตี่ หรือตาชั้นเดียวเกิดขึ้นได้หลายปัจจัยทั้ง พันธุกรรม และสภาวะทางการแพทย์ ทั้งนี้อาการตาตี่ หรือตาชั้นเดียวมักเกิดจากการสะสมไขมัน และหนังตาส่วนเกินเยอะเกินไป จนทำให้ชั้นของตาถูกบีบอัด และเบียดชั้นตากัน ทำให้มองไม่เห็นชั้นตา กลายเป็นตาตี่ หรือตาชั้นเดียว 


ตาชั้นเดียว ตาชั้นเดียว สามารถแก้ไขได้หรือไม่

ตาตี่ หรือตาชั้นเดียวไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อการใช้ชีวิตประจำวัน บางคนก็ชื่นชอบที่จะมีตาตี่ หรือตาชั้นเดียว แต่บางคนก็พบปัญหา หากมีตาตี่ หรือตาชั้นเดียวหนึ่งข้างจะทำให้ตาสองข้างไม่เท่ากัน หรือบางทีมีปัญหาชั้นตาหลบใน ซึ่งทำให้มองเห็นชั้นตาไม่ชัด ตาดูเล็ก ใบหน้าดูไม่ค่อยสมดุลย์ แต่งหน้ายาก  เพราะไขมันบริเวณเปลือกตาแต่ละข้างมีไม่เท่ากัน ทำให้หนังตาตกไม่เท่ากัน 

อย่างไรก็ตามปัญหาตาตี่ ตาชั้นเดียวสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำตาสองชั้นร่วมกับเทคนิคต่าง ๆ เช่น หากคนไข้ที่มีตาตี่ หรือตาชั้นเดียว และมีไขมันบริเวณเปลือกตาสองข้างไม่เท่ากันก็สามารถทำตาสองชั้นเทคนิคกรีดยาว และตัดหนังตาส่วนเกินออก วิธีนี้สามารถปรับแต่งรูปร่างไขมัน และรูปร่างของตาได้หลากหลาย ได้ผลลัพธ์การรักษาถาวร  แต่การผ่าตัดทำตาสองชั้นเพื่อแก้ไขปัญหาตาตี่ หรือตาชั้นเดียว ชั้นตาหลบในก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี 


ตาตี่ส่งผลต่อการมองเห็นหรือไม่

อาการตาเล็ก ตาตี่ หรือตาชั้นเดียว ของคนโดยทั่วไป ไม่มีผลต่อการมองเห็น ไม่มีผลต่อสุขภาพของตา หรือการใช้ชีวิตประจำวันใด ๆ แต่ในบางกรณีของคนที่มีอาการ ตาเล็ก ตาตี่ หรือตาชั้นเดียว รุนแรง เช่น หนังตาตกเกินเส้นตาปกติ มีอาการตาด้อย มองไม่ชัด เนื่องจากเกิดการหดตัวของตัวตา ทำให้ไม่สามารถเปิดตัวได้เต็มที่ อาจส่งผลต่อการมองเห็นได้ค่ะ


วิธีการแก้ไขปัญหาตาเล็ก ตาตี่ มีอะไรบ้าง

  • เทคนิคการแต่งหน้า
    ใครตาตี่ หรือตาชั้นเดียว หรือตาสองชั้นหลบใน แต่อยากจะมีตาสองชั้นที่ดูกลมโต โดยไม่ต้องศัลยกรรมตาสองชั้น การแต่งหน้าก็เป็นอีกทางออกหนึ่งที่สาว ๆ นิยม เช่น ทาอายแชโดว์ไล่เฉดขอบตาเพื่อสร้างเงา หรือ กรีดเส้นอายไลเนอร์ 
  • การติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น
    การติดสติ๊กเกอร์ติดตาสองชั้น วิธีนี้เป็นการแก้ตาตี่ หรือตาชั้นเดียว ให้มีสองชั้นได้ในราคาประหยัด แต่ทำให้มีตาสองชั้นได้แบบชั่วคราวเท่านั้น และบางครั้งใช้เวลาแต่งหน้าค่อนข้างนาน เช่น ติดไม่เนียน รวมถึงสติ๊กเกอร์ติดตาสองชั้นยังหลุดระหว่างวันได้ด้วย รวมถึงการเลือกใช้กาวกาวที่ใช้สำหรับสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น หากเลือกไม่ดีก็อาจจะทำให้เราเกิดอาการแพ้ หรือเนื้อกาวเหนียวจนเกิดไปทำให้รู้สึกไม่สบายตาได้ แต่การติดสติ๊กเกอร์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการทำตาสองชั้นโดยไม่ต้องศัลยกรรม
  • ทำศัลยกรรมตาสองชั้น
    สำหรับผู้ที่อยากปรับตาตี่หรือตาชั้นเดียวให้ เป็นตาสองชั้นเพื่อให้ตากลมโต ให้ดวงตาดูมีมิติมากขึ้นเทคนิคที่หมอเลือกใช้กับผู้ที่มีตาตี่ หรือตาชั้นเดียว แบ่งเป็น 2 แบบ คือ 
    • เทคนิคแผลเล็ก หรือการกรีดสั้น
      เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันบริเวณหนังตาบนไม่มาก หนังตาไม่หย่อนคล้อย ในคนไข้ลักษณะนี้ คุณหมอจะเลือกใช้ผ่าตัดแก้ไขตาตี่ หรือตาชั้นเดียว ด้วย
    • ด้วยเทคนิคกรีดยาว
      สำหรับคนที่มีไข้มันบริเวณหนังตาบนเยอะ ผิวหย่อนคล้อย หนังตาตกค่อนข้างมาก คุณหมอจะผ่าตัดแก้ไขตาตี่ หรือตาชั้นเดียว โดยมีการตัดหนังตาส่วนเกินออกด้วย เพื่อให้สามารถปรับแต่งไขมัน และรูปร่างของตาสองชั้นได้หลากหลาย และเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ศัลยกรรมตาสองชั้นคืออะไร

โดยพื้นฐานลักษณะโครงสร้างตาของคนไทย ส่วนใหญ่มักจะมีไขมันบริเวณเปลือกตาเยอะ เปลือกตาหนา หนังตาตก ตาชั้นเดียว ตาสองชั้นหลบใน ตาสองข้างไม่เท่ากัน รวมไปถึงปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อตา ไม่ว่าจะเป็นตาปรือ ตาดูง่วงนอนตลอดเวลา หรือที่เราเรียกกันว่า กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง นั่นเองค่ะ อาการเหล่านี้หากปล่อยไว้ไม่รักษาจะเกิดภาวะหนังตาตกทับดวงตา ส่งผลให้ประสิทธิภาพการมองเห็นของเราลดลงนะคะ

ดังนั้นวิธีแก้ไขที่ดีเลย คือ การผ่าตัดเพื่อแก้ไขโครงสร้างชั้นตา โดยการกรีดเปลือกตาแล้วเย็บหนังตาเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดชั้นตาใหม่ขึ้นมาด้วยเทคนิคเฉพาะที่ The VOGUE Clinic มีความแตกต่างจากการทำตาด้วยวิธีทั่วไป เน้นในเรื่องของ 

  • ปรับโครงสร้างตาให้เหมาะสมกับใบหน้าเป็นหลัก 
  • บาดแผลมีขนาดเล็กมากจึงทำให้มองไม่เห็นแผลเป็น
  • หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • อาการบวมช้ำน้อยมาก
  • ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน

ตาสองชั้นหลบในคืออะไร 

คนที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่หนังตาชั้นบนหย่อนคล้อยลงมาปิดชั้นตาไว้ค่ะ อาจมีสาเหตุมาจากไขมันบริเวณเปลือกตาเยอะเกินไป จึงทำให้ชั้นตาหลบใน เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น ตาไม่หวาน ตาดูดุ  เวลาแต่งหน้าจะค่อนข้างลำบากเพราะไม่สามารถมองเห็นเมคอัพที่ดวงตาชัดเจนนั่นเอง

วิธีการแก้ไข
จริง ๆ แล้วการแก้ไขตาสองชั้นหลบในสามารถทำได้หลายวิธีนะคะไม่ว่าจะเป็น การติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น ดูดไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาบน เลเซอร์ ยกคิ้ว แต่วิธีที่นิยมมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น การกรีดหนังตาค่ะ โดยแพทย์จะกำหนดตำแหน่งชั้นตาที่สวยงาม ที่รับเข้ากับรูปดวงตา ใบหน้า ของคนไข้แต่ละคนก่อนค่ะ หลังจากนั้น จึงเริ่มฉีดยาชาบริเวณตา แล้วใช้มีดกรีดเปิดแผลบริเวณเปลือกตา ตั้งแต่หัวตา ไปจนถึงหางตาเลยค่ะ เพื่อตัดเอาไขมัน และหนังตาบางส่วนออก แล้วเย็บปิดแผลอย่างปราณีตค่ะ


เทคนิคการศัลยกรรมตาสองชั้นมีกี่แบบ

  • ขั้นตอนการศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดสั้น
    ในการทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นนั้น เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณเปลือกตาไม่มาก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว ชั้นไขมันไม่เยอะ และหนังตาไม่หย่อนคล้อยมากจนเกินไป วิธีนี้หมอจะใช้วิธีการเย็บ 2-3 จุด เพื่อสร้างรอยพับของหนังตาให้เป็นสองชั้น โดยไม่กรีดหนังตาทำให้ไม่มีแผล ไม่มีการเอาไขมันและผิวหนังส่วนเกินออกไป การทำตาสองชั้นวิธีแบบกรีดสั้นนี้ หลังทำอาจมีอาการบวมเล็กน้อย แผลหายเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น และห้ามขยี้ตาเเรง ๆ อาจทำให้ไหมหลุดได้ หลังทำประมาณ 1 เดือนแผลจะยุบ และเปลือกตาจะเข้าที่เป็นตาสองชั้นอย่างสวยงาม
  • ขั้นตอนการศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดยาว
    ในการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวนั้น เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณเปลือกตามาก หรือมีเปลือกตาหนา โดยหมอจะทำการเลาะตัดออกบ้าง ให้เหมาะสมกับโครงหน้า การกรีดยาวจะเป็นรอยของชั้นตาที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อแก้ปัญหาหนังตาตก โดยจะใช้มีดกรีดบริเวณหนังตาด้านนอกจากหัวตาไปถึงช่วงหางตา เพื่อเปิดหนังตาเอาไขมันที่เป็นส่วนเกินออก เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วหมอจะใช้ไหมพิเศษแบบเล็กละเอียด ทำการเย็บแผล รอยเเผลจะถูกซ่อนในรอยพับของชั้นตา เทคนิคนี้จะทำให้ดวงตากลมโต และสดใสมากขึ้น
    • ระยะเวลาในการผ่าตัด
      ระยะเวลาในการผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น ประมาณ 60 นาที – 90 นาที การวางยา ยาชาเฉพาะที่ และยาสลบระยะสั้น หลังจากนั้นเข้าเช็คดูอาการที่คลินิกตามแพทย์สั่ง และตัดไหม 1 อาทิตย์หลังการผ่าตัด คนไข้สามารถดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติประมาณ 3-4 วันหลังการผ่าตัด

ผู้ชายทำศัลยกรรมตาสองชั้นได้ไหม

ในปัจจุบันการศัลยกรรมตาสองชั้นถือเป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ เลยก็ว่า เพราะการทำศัลยกรรมเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยปรับบุคลิกภาพของเราให้ดูดีขึ้น แม้แต่ผู้ชายเองต่างก็หันมาดูแลตัวเองกันค่อนข้างมากค่ะ เนื่องจากปัญหารอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็น ชั้นตาไม่ชัดเจน หนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก ตาปรือ ตาลอย ตาดูง่วงนอนตลอดเวลา ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหากวนใจหนุ่ม ๆ เช่นกันค่ะ หลายคนอาจมีความกังวลใจว่า หลังทำศัลยกรรมตาไปแล้ว ชั้นตาจะดูใหญ่เกินไปไหม ตาจะดูหวานเกินไป หรือเปล่า วันนี้จะมาคลายความกังวลให้กับหนุ่ม ๆ กันนะคะ สำหรับการออกแบบชั้นตาสำหรับผู้ชาย จะเน้นเรื่องความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหวานจนเกินไปค่ะ เพื่อความเหมาะสมกับใบหน้า ดังนั้นการออกแบบชั้นตาให้สวย จึงประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น

  • ขอบตาล่างควรอยู่พอดีกับขอบตาดำ
  • เบ้าตาไม่ลึกโบ๋ หรือนูนออกมา
  • ชั้นตาไม่ยาวเลยหางตาจนเกินไป
  • ระยะห่างระหว่างดวงตา และคิ้ว ไม่ควรชิดกันเกินไป ค่ะ

หากหนุ่ม ๆ มีชั้นตาดูสวยเป็นธรรมชาติ รับกับใบหน้า จะส่งผลให้ดูหล่อ และสดใสมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการเช้าสังคมมากขึ้นค่ะ


ทำไมถึงต้องศัลยกรรมตาสองชั้น 

การศัลยกรรมตาสองชั้น คือ การผ่าตัดเพื่อสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ค่ะ โดยแพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาคนไข้ และเลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มความมั่นใจ คืนความอ่อนเยว์ ความมีชีวิตชีวา ความสดใสให้กับเจ้าของดวงตาค่ะ ดังนั้น การทำตาสองชั้นจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาเหล่านี้ค่ะ 

  • ตาชั้นเดียว ตาเล็ก หรือตาหยี
  • ตาสองชั้นตาหลบใน 
  • ตาสองข้างไม่เท่ากัน 
  • ตาดูง่วงนอนตลอดเวลา หรือ ตาปรือ ตาดูไม่สดใส
  • หางตาตก 
  • หนังตาหย่อนคล้อยลงมาปิดตาดำ ทำให้ประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง
  • หนังตาปิดหัวตา หรือหางตา ทำให้ตาดูไม่สดใส

ศัลยกรรมตาสองชั้นมีกี่แบบ

แพทย์สามารถช่วยให้สาว ๆ มีชั้นตาสวย ๆ ได้อย่างที่ปรารถนาค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของคนไข้ รวมไปถึงเทคนิคที่แพทย์เลือกใช้ด้วยนะคะ โดยแพทย์จะพิจารณา ประเมิน และแก้ไขตามอาการของคนไข้ เพื่อให้ผลลัธ์ที่ได้ออกมาสวยดูดีในแบบคุณค่ะ 

  • แบบกรีดชั้นหนังตา
    เป็นการสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ค่ะ โดยตำแหน่งของรอยแผลจะเป็นตำแหน่งของชั้นตาที่ต้องการนะคะ ซึ่งเทคนิคการกรีดชั้นหนังตาจะมีด้วยกัน 2 เทคนิคค่ะ แล้วเทคนิคที่ว่านั้นก็ คือ การกรีดแผลยาว และ การกรีดแผลสั้นค่ะ เพื่อตัดไขมันสะสมบริเวณเปลือกตา แก้ไขปัญหาชั้นตาที่ดูไม่สวย ให้คมชัดเป็นธรรมชาตินั่นเอง
  • เย็บชั้นตา
    เป็นการเย็บบริเวณเปลือกตา โดยแพทย์จะทำการเย็บทั้งหมด 3 จุดนะคะ เพื่อสร้างรอยพับของหนังตาให้ดูเป็นสองชั้น เหมาะสำหรับคนไข้คนที่มีไขมันเปลือกตาไม่เยอะ หนังตาไม่หย่อนนะคะ
  • เลเซอร์ชั้นตา
    เป็นการเปิดแผลโดยใช้คลื่น Plasma จี้บริเวณผิวเปลือกตาส่วนที่หย่อนคล้อยค่ะ เหมาะกับคนที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่มีหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก เล็กน้อย และยังไม่อยากผ่าตัดค่ะ การทำตาสองชั้นด้วยเลเซอร์นี้ แผลจะบวมน้อย หายไว ไร้รอยแผลเป็น ผลลัพธ์ที่ได้ ดวงตาสวยคม ชั้นตาชัดเจน และยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ
  • เปิดหัวตา หรือหางตา
    แพทย์จะตัดแต่งหนังตาบริเวณหัวตา หรือหางตา เพื่อเพิ่มความกว้างของตาค่ะ จากนั้นจะเย็บปิดแผลด้วยความปราณีต ซึ่งแผลจะมีขนาดเล็กมากจนแทบจะมองไม่เห็นรอยแผลเป็นเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ต้องการดวงตาที่กลมโต แต่มีหนังตามาปิดที่บริเวณหัวตา หรือหางตาค่ะ
  • แก้ไขหนังตาตก
    เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระชับเปลือกตาบนค่ะ วิธีนี้แพทย์จะทำการซ่อนแผลไว้ที่ใต้คิ้วนะคะ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีหนังตาตกบริเวณหางตาค่ะ
  • ผ่าตัดแก้ไขปัญหาตัดถุงใต้ตา
    เป็นการตัดถุงใต้ตาผ่านทางเปลือกตาล่าง เพื่อนำไขมันออกมา ทำให้บริเวณถุงใต้ตาเรียบเนียนยิ่งขึ้นค่ะ
  • ผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา
    เป็นการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมมัดกล้ามเนื้อเปลือกตาที่อ่อนแรงให้กลับมาแข็งแรง ทำให้ตาดูสดใสมากขึ้น และที่สำคัญสามารถลืมตาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเลิกคิ้ว เลิกหน้าผาก หรือเบิ่งตาค่ะ

สไตล์ตาสองชั้นสวย ๆ

ในปัจจุบันรูปแบบชั้นตาสวยๆ ที่สาวๆชื่นชอบนั้น มีหลายรูปแบบตามรสนิยมความชอบของแต่ละคนค่ะ ดังนั้นตาที่สวยที่สุดก็คงหนีไม่พ้นดวงตาที่เหมาะสมกับเจ้าของดวงตามากที่สุด วันนี้มีเทคนิคการทำตาสองชั้นที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อปรับลุคดวงตาให้สวยสดใสในแบบฉบับคุณค่ะ วันนี้จะเล่าให้ฟังนะคะว่ามีรูปแบบไหนบ้างที่ครองใจสาวไทยมาอย่างยาวนาน

  • ตาสองชั้นสายฝอ
    ลักษณะเด่นๆของตาสองชั้นสายฝอ ก็คงหนีไม่พ้น ชั้นตาที่คมชัด สามารถมองเห็นรอยพับได้อย่างชัดเจน ตาสวยเฉี่ยว หัวตาเปิด ไม่มีไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาค่ะ ตาไม่ตก ดูสดใส กลมโต ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นรูปแบบที่ครองใจสาวๆหลายคนเลยก็ว่าได้ค่ะ
  • ตาสองชั้นแบบเกาหลี
    ลักษณะเด่นๆของสายเกาหลี คือตาดำกลมโต ดวงตาสดใสเปล่งประกาย เน้นความอ่อนเยาว์เป็นหลัก หางตาชี้ขึ้นเล็กน้อย ชั้นตาไม่ลึกและไม่สูงจนเกินไป ที่สำคัญต้องดูเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ใบหน้าดูสวยคม เพิ่มน่ารักยิ่งขึ้นค่ะ
  • ตาสองชั้นแบบญี่ปุ่น
    สังเกตุได้ว่าลักษณะดวงตาของคนญี่ปุ่นมักจะมีดวงตาที่กลมโตกว่าคนเกาหลี ชั้นตาชัดจนดูเป็นธรรมชาติ มีไขมันเปลือกตาเล็กน้อย มีดอลลี่อายบริเวณใต้ขอบตา ไม่เน้นหาตาชี้ขึ้น ใบหน้าโดยรวมดูสวยหวานและน่ารักใจดีค่ะ
  • ตาสองชั้นหวาน ๆ
    จุดเด่นของตาสองชั้นแบบหวานๆนี้ก็คือ ลักษณะดวงตาที่ดูเหมือนยิ้มตลอดเวลาค่ะ แววตามีความเฟรนลี่ซ่อนอยู่ ดูน่าคบหา เป็นตาสองชั้นที่มีรอยพับโค้งตามรูปตาอย่างสวยงาม ชั้นตามีความสูงแบบพอเหมาะ มีความกว้างที่กำลังดีไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ช่วยให้ปรับใบหน้าดูละมุนมากขึ้นค่ะ

ผลข้างเคียงหลังการทำตาสองชั้น

ปัจจุบันการทำศัลยกรรมตาสองชั้นเป็นที่นิยมอย่างมากเลยก็ว่าได้ค่ะ  ด้วยเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่ชื่นชอบดวงตาที่กลมโต สดใส ดวงตาที่ดูเหมือนรอยยิ้มตลอดเวลา เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า จึงทำให้สาว ๆ หลายคนหันมาทำตาสองชั้นกันมากขึ้นค่ะ แต่ต้องอย่าลืมนะคะว่าการทำศัลยกรรมทุกประเภทนั้นมีความเสี่ยง รวมไปถึงผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดที่อาจเกิดขึ้นหากเราดูแลตัวเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร  คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ  ดังนั้น วันนี้จะเล่าให้ฟังนะคะ ว่าอาการข้างเคียงหลังเข้ารับการผ่าตัดที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับค่ะ 

ผลข้างเคียงระยะสั้น
คือ อาการที่เกิดขึ้นในช่วงระยะ 7-14 วัน หลังผ่าตัด

  • รอยเขียวช้ำ
    อาการนี้สามารถพบได้ทั่วไปหลังการผ่าตัด เนื่องจากใต้ผิวหนังของเรามีเลือดไหลออกมาทำให้เห็นเป็นรอยช้ำเขียวค่ะ มักจะเกิดกับคนที่ฟกช้ำง่าย ทางแก้ที่ดีเลย คือ หมั่นประคบเย็นในช่วงแรก และประคบอุ่นในช่วงหลังเพื่อลดอาการช้ำเขียวค่ะ
  • แผลอักเสบ
    หลังการเข้ารับการผ่าตัด ควรหมั่นดูแล และทำความสะอาดแผลอย่างดีนะคะ เพราะหากดูแลแผลไม่ดี แผลเปียก ล้างแผลไม่สะอาด อาจจะก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ค่ะ
  • แผลแยก
    สาเหตุมาจาก เทคนิคการเย็บแผล ไหมหลุดเร็วเกินไป หรืออาการอักเสบค่ะ หากสังเกตุเห็นว่าแผลแยกออกจากกันแนะนำว่าให้รีบพบแพทย์เพื่อรักษานะคะ  เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้แผลไม่สวย ชั้นตาก็ดูไม่สวยงามด้วยค่ะ
  • หลับตาไม่สนิท
    คนไข้บางรายอาจหลับตาได้ไม่สนิท เนื่องจากมีอาการบวมของแผลบริเวณเปลือกตา และยาชาค่ะ แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะอาการบวมนี้จะยุบตัวลง และหายได้เองค่ะ หากมีอาการเคืองตาร่วมด้วย แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมหยอดใส่บริเวณตาระหว่างวันเพื่อบรรเทาการระคายเคืองชั่วคราวนะคะ

ผลข้างเคียงระยะยาว

  • ชั้นตาหลุด
    สาเหตุมาจาก คนไข้มีอาการเคืองตาแล้วขยี้ตาค่ะ  รวมไปถึงการที่แพทย์เลือกใช้เทคนิคที่ไม่เชี่ยวชาญ หากพบว่าชั้นตาหลุดควรปรึกษาแพทย์เพื่อผ่าตัดแก้ไขภายใน 14 วันนะคะ
  • ตาสองชั้น บวมไม่เท่ากัน
    โดยปกติแล้วอาการยุบบวมจะยุบลงเต็มที่หลังจาก 3 เดือนไปแล้ว หากพบว่ามีอาการชั้นตาไม่เท่ากัน อาจมีสาเหตุมาจากการที่แพทย์ผ่าตัดเอาไขมันบริเวณเปลือกตาออกมากจนเกินไป ทำให้เบ้าตาลึก ในบางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วยค่ะ
  • ชั้นตาใหญ่เกินไป
    สาเหตุหลัก ๆ มาจากการเย็บชั้นตาที่สูงเกินไปของแพทย์ค่ะ หรือในขั้นตอนการผ่าตัดเอาไขมันบริเวณเปลือกตาออกมากเกินไปนั่นเอง
  • ตาสองชั้นมีรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัดเจน
    โดยปกติแล้วการทำตาสองชั้นจะยุบบวมเต็มที่ และดูเรียบเนียนในช่วง 3-6 เดือนนะคะ ทั้งนี้หากคนไข้ดูแลแผลได้ไม่ดีอาจจะเกิดคีลอยด์ ทำให้แผลไม่สวย ไม่เรียบเนียน ได้ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

การผ่าตัดทุกประเภทย่อมมีความเสี่ยง หากคนไข้เตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดตามคำแนะนำอย่างเคร่งคัด นอกจากช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นขณะเข้ารับการผ่าตัดแล้ว ยังช่วยให้การผ่าตัดดำเนินไปได้อย่างราบรื่นอีกด้วยค่ะ

ก่อนถึงวันผ่าตัด

  • คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการศัลยกรรมทุกประเภทก่อนเข้ารับการผ่าตัด ประมาณ 1 เดือนนะคะ
  • งดใส่คอนแทคเลนส์ อย่างน้อย 3 สัปดาห์ค่ะ 
  • งดการติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น  งดบุหรี่ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอร์ทุกชนิด รวมไปถึงวิตามินต่าง ๆ และอาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ค่ะ

วันผ่าตัด

  • คนไข้ควรสระผมให้สะอาด งดแต่งหน้า และเลือกเสื้อผ้าที่ง่ายต่อการสวมใส่ เช่น เสื้อยืดคอกว้าง เสื้อมีกระดุมด้านหน้า เพื่อลดโอกาสการสัมผัสบริเวณใบหน้าหลังการผ่าตัด
  • แจ้งประวัติ โรคประจำตัว การแพ้อาหาร แพ้ยา รวมไปถึงยาที่ต้องรับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบโดยละเอียด หากคนไข้เคยทำตามาก่อนก็ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเช่นกันค่ะ
  • เตรียมสภาพจิตใจ ให้พร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัด ไม่ตื่นเต้นจนเกินไปนะคะ

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด 

  • หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมงแรก คนไข้บางรายอาจมีอาการเลือดซึมเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลค่ะ ให้ใช้ไม้พันสำลีซับเลือดออกอย่างเบามือนะคะ แล้วทาขี้ผึ้งบริเวณแผลตรงเปลือกตาค่ะ แนะนำว่าให้ทาเบา ๆ นะคะเพราะแผลยังใหม่อยู่ 
  • ในช่วง 2 วันแรก ใช้เจลเย็นสำเร็จรูป (cool pack) วางบนผ้าสะอาดแล้วประคบบริเวณแผล 20 นาที  พัก 20 นาที ทำสลับกันไปนะคะ การประคบเย็นควรประคบบริเวณหน้าผาก และรอบดวงตา ไม่ควรประคบบริเวณแผลโดยตรงนะคะ เพื่อลดอาการบวม และการประคบเย็นยังช่วยห้ามเลือดอีกด้วยนะ 
  • เวลาทำแผลแนะนำว่าให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดแผล เช็ดให้แห้งอย่างเบามือนะคะ อย่าให้มีคราบเลือดติดบริเวณแผลเด็ดขาด เพราะจะทำให้แผลหายช้า และสมานตัวยากค่ะ
  • ที่สำคัญคนไข้ไม่ควรขยี้ตาในช่วงนี้นะคะ หากระหว่างวันมีอาการเคืองตาให้ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาจะช่วยลดการระคายเคืองได้ชั่วคราวค่ะ 
  • หลังจากทำตา คนไข้ควรรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่งนะคะ 
  • ในส่วนของอาหารหลายคนอาจสงสัยว่า ห้ามกินอะไรบ้าง? คำตอบคือ “สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติเลยค่ะ ไม่มีข้อห้ามในการกินนะคะ”
    คนไข้ต้องเลี่ยงการแต่งตา กรีดอายไลเนอร์ และงดใส่คอนแทคเลนส์ จนกว่าจะตัดไหมเลยนะคะ ซึ่งโดยปกติใช้เวลา 7 วัน ก็สามารถตัดไหมได้แล้วค่ะ 

รีวิวตาสองชั้น

รีวิวตาสองชั้น
รีวิวตาสองชั้น

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคืออะไร รักษายังไง
27 ก.ย. 2566

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคืออะไร รักษายังไง

ศัลยกรรมรอบดวงตา