เผยสาเหตุปัญหาตาปลิ้น หลังทำตาสองชั้น

เผยสาเหตุปัญหาตาปลิ้น หลังทำตาสองชั้น

30 พ.ย. 2566   ผู้เข้าชม 491

หลาย ๆ คนที่คิดจะทำศัลยกรรมตาสองชั้น แต่ก็ยังกังวล กลัว เนื่องจากเห็นรีวิวมากมาย หลังทำตาเกิดปัญหา ตาปลิ้น หลับตาไม่สนิท แล้วกังวลว่าเราจะเป็นแบบนั้น หรือไม่ หรือ บางคนก็สงสัยว่ามันเป็นปกติของการทำตาสองชั้น หรือไม่ บทความนี้จะมาตอบข้อสงสัยเหล่านั้นกันนะคะ


ตาปลิ้น คืออะไร แบบไหนเรียกว่าตาปลิ้น

ตาปลิ้น ภาษาแพทย์เรียก ectropion คือขอบตาม้วนออก โดยปกติแล้วหลังทำตาสองชั้น ขนตาจะสามารถงอนเด้งขึ้นได้เล็กน้อย แค่พอสวยงาม โดยขอบของเปลือกตาบนยังราบไปกับลูกตา แบบนี้ถือว่าเป็นปกติ หรือ บางคนที่เปลือกตาค่อยข้างยืดมาก อาจจะมีขอบแดง ๆ ที่สาว ๆ เขียน inner liner ออกมาได้เล็กน้อย โดยขอบล่างเปลือกตายังราบกับลูกตา อันนี้ยังไม่เกิดความผิดปกติ แต่คนที่หลังผ่าตัดเห็นขอบตาด้านในสีแดงปลิ้นออกมาให้เห็นด้านนอก ลักษณะนี้จะเห็นว่าขอบตาจะไม่ราบไปกับลูกตา จะหลับตาไม่สนิท น้ำตาไหลตลอด มีอาการเคืองตา อาจมีอาการตามัวได้


สาเหตุของตาปลิ้นเกิดจากอะไร

ต้องบอกว่าเป็นจากเทคนิคการผ่าตัดที่ไม่เหมาะสม ได้แก่การเย็บชั้นตาที่สูงเกินไป หรือ สัดส่วนของชั้นตาที่เย็บติดกับกล้ามเนื้อตาด้านในเพื่อให้เกิดชั้นตาไม่เหมาะสม หรือ บวมมากๆ ซึ่งแพทย์ที่มีประสบการณ์จะเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดเหล่านี้ และ จะมักไม่ทำให้เกิดขึ้น โดยสาเหตุเกิดจากอะไรนั้นไม่จำเป็นที่ผู้รับบริการต้องรู้ แต่ผู้รับบริการควรต้องศึกษาให้ดีก่อนเลือกสถานพยาบาล และ แพทย์ที่ทำการผ่าตัด 


ปัญหาตาปลิ้นแล้วสามารถแก้ไขอย่างไร

หากหลังผ่าตัดทำตาสองชั้นแล้วพบว่าตาปลิ้นรุนแรง ร่วมกับหลับตาไม่สนิท ควรแก้ไขทันที เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากยังไม่เกิดพังผืดสามารถคลายให้ลงมาได้ แต่หากรอนานเกิน 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลาที่มีพังผืดมายึดติดกันแล้ว การผ่าตัดจะไม่ได้ผลดีเท่า แต่การผ่าตัดเมื่อหลังทำใหม่ ๆ ที่อาการบวมแดงอักเสบยังเยอะ ก็ทำให้การผ่าตัดยากขึ้นแน่นอน แต่จำเป็นต้องทำ และ แนะนำให้แก้ไขโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

หากตรวจดูแล้วยังไม่มีอันตรายต่อดวงตา หรือ ตาปลิ้นไม่มาก แนะนำให้รอให้การอักเสบยุบบวมดีขึ้น แล้วประเมินอีกครั้ง จากประสบการณ์ของหมอได้เจอคนไข้ต้องการมาแก้ไขตาสองชั้นที่เคยทำมาก่อนแล้วตาปลิ้นหลังทำใหม่ ๆ ที่ไม่มากจนเกินไป จะพบว่าเมื่อเวลาผ่านไป อาการตาปลิ้นจะค่อย ๆ ดีขึ้น ถึงแม้จะเหลือบ้างเล็กน้อย และ ดูไม่รุนแรงเท่ากับตอนแรก ๆ ซึ่งหมอจะแนะนำว่าให้ตรวจตาดูว่ามีอาการหลับตาไม่สนิทมากจนตาแห้ง มีรอยถลอกที่กระจกตา หรือไม่ หากไม่มีอันตราย เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดี หมอแนะนำให้ใจเย็น ๆ และ ให้รอเช่นกัน 


ศัลยกรรมตาสองชั้นคืออะไร

โดยพื้นฐานลักษณะโครงสร้างตาของคนไทย ส่วนใหญ่มักจะมีไขมันบริเวณเปลือกตาเยอะ เปลือกตาหนา หนังตาตก ตาชั้นเดียว ตาสองชั้นหลบใน ตาสองข้างไม่เท่ากัน รวมไปถึงปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อตา ไม่ว่าจะเป็นตาปรือ ตาดูง่วงนอนตลอดเวลา หรือ ที่เราเรียกกันว่า กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง นั่นเองค่ะ อาการเหล่านี้หากปล่อยไว้ไม่รักษาจะเกิดภาวะหนังตาตกทับดวงตา ส่งผลให้ประสิทธิภาพการมองเห็นของเราลดลงนะคะ

ดังนั้นวิธีแก้ไขที่ดีเลย คือ การผ่าตัดเพื่อแก้ไขโครงสร้างชั้นตา โดยการกรีดเปลือกตาแล้วเย็บหนังตาเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดชั้นตาใหม่ขึ้นมาด้วยเทคนิคเฉพาะที่ The VOGUE Clinic มีความแตกต่างจากการทำตาด้วยวิธีทั่วไป เน้นในเรื่องของ 

  • ปรับโครงสร้างตาให้เหมาะสมกับใบหน้าเป็นหลัก 
  • บาดแผลมีขนาดเล็กมากจึงทำให้มองไม่เห็นแผลเป็น
  • หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  • อาการบวมช้ำน้อยมาก
  • ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน

เทคนิคการศัลยกรรมตาสองชั้นมีกี่แบบ

  • ขั้นตอนการศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดสั้น
    ในการทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นนั้น เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณเปลือกตาไม่มาก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว ชั้นไขมันไม่เยอะ และ หนังตาไม่หย่อนคล้อยมากจนเกินไป วิธีนี้หมอจะใช้วิธีการเย็บ 2-3 จุด เพื่อสร้างรอยพับของหนังตาให้เป็นสองชั้น โดยไม่กรีดหนังตาทำให้ไม่มีแผล ไม่มีการเอาไขมัน และ ผิวหนังส่วนเกินออกไป การทำตาสองชั้นวิธีแบบกรีดสั้นนี้ หลังทำอาจมีอาการบวมเล็กน้อย แผลหายเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น และ ห้ามขยี้ตาเเรง ๆ อาจทำให้ไหมหลุดได้ หลังทำประมาณ 1 เดือนแผลจะยุบ และ เปลือกตาจะเข้าที่เป็นตาสองชั้นอย่างสวยงาม
  • ขั้นตอนการศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดยาว
    ในการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวนั้น เหมาะกับผู้ที่มีไขมันบริเวณเปลือกตามาก หรือ มีเปลือกตาหนา โดยหมอจะทำการเลาะตัดออกบ้าง ให้เหมาะสมกับโครงหน้า การกรีดยาวจะเป็นรอยของชั้นตาที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อแก้ปัญหาหนังตาตก โดยจะใช้มีดกรีดบริเวณหนังตาด้านนอกจากหัวตาไปถึงช่วงหางตา เพื่อเปิดหนังตาเอาไขมันที่เป็นส่วนเกินออก เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วหมอจะใช้ไหมพิเศษแบบเล็กละเอียด ทำการเย็บแผล รอยเเผลจะถูกซ่อนในรอยพับของชั้นตา เทคนิคนี้จะทำให้ดวงตากลมโต และ สดใสมากขึ้น
    • ระยะเวลาในการผ่าตัด
      ระยะเวลาในการผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น ประมาณ 60 นาที – 90 นาที การวางยา ยาชาเฉพาะที่ และ ยาสลบระยะสั้น หลังจากนั้นเข้าเช็คดูอาการที่คลินิกตามแพทย์สั่ง และ ตัดไหม 1 อาทิตย์หลังการผ่าตัด คนไข้สามารถดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติประมาณ 3-4 วันหลังการผ่าตัด

ทำไมถึงต้องศัลยกรรมตาสองชั้น 

การศัลยกรรมตาสองชั้น คือ การผ่าตัดเพื่อสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ค่ะ โดยแพทย์เป็นผู้ประเมินปัญหาคนไข้ และ เลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดตามความเหมาะสม เพื่อเพิ่มความมั่นใจ คืนความอ่อนเยว์ ความมีชีวิตชีวา ความสดใสให้กับเจ้าของดวงตาค่ะ ดังนั้น การทำตาสองชั้นจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาเหล่านี้ค่ะ 

  • ตาชั้นเดียว ตาเล็ก หรือ ตาหยี
  • ตาสองชั้นตาหลบใน 
  • ตาสองข้างไม่เท่ากัน 
  • ตาดูง่วงนอนตลอดเวลา หรือ ตาปรือ ตาดูไม่สดใส
  • หางตาตก 
  • หนังตาหย่อนคล้อยลงมาปิดตาดำ ทำให้ประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง
  • หนังตาปิดหัวตา หรือ หางตา ทำให้ตาดูไม่สดใส

รูปแบบการศัลยกรรมตาสองชั้น

แพทย์สามารถช่วยให้สาว ๆ มีชั้นตาสวย ๆ ได้อย่างที่ปรารถนาค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของคนไข้ รวมไปถึงเทคนิคที่แพทย์เลือกใช้ด้วยนะคะ โดยแพทย์จะพิจารณา ประเมิน และ แก้ไขตามอาการของคนไข้ เพื่อให้ผลลัธ์ที่ได้ออกมาสวยดูดีในแบบคุณค่ะ 

  • แบบกรีดชั้นหนังตา
    เป็นการสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ค่ะ โดยตำแหน่งของรอยแผลจะเป็นตำแหน่งของชั้นตาที่ต้องการนะคะ ซึ่งเทคนิคการกรีดชั้นหนังตาจะมีด้วยกัน 2 เทคนิคค่ะ แล้วเทคนิคที่ว่านั้นก็ คือ การกรีดแผลยาว และ การกรีดแผลสั้นค่ะ เพื่อตัดไขมันสะสมบริเวณเปลือกตา แก้ไขปัญหาชั้นตาที่ดูไม่สวย ให้คมชัดเป็นธรรมชาตินั่นเอง
  • เย็บชั้นตา
    เป็นการเย็บบริเวณเปลือกตา โดยแพทย์จะทำการเย็บทั้งหมด 3 จุดนะคะ เพื่อสร้างรอยพับของหนังตาให้ดูเป็นสองชั้น เหมาะสำหรับคนไข้คนที่มีไขมันเปลือกตาไม่เยอะ หนังตาไม่หย่อนนะคะ
  • เลเซอร์ชั้นตา
    เป็นการเปิดแผลโดยใช้คลื่น Plasma จี้บริเวณผิวเปลือกตาส่วนที่หย่อนคล้อยค่ะ เหมาะกับคนที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่มีหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก เล็กน้อย และ ยังไม่อยากผ่าตัดค่ะ การทำตาสองชั้นด้วยเลเซอร์นี้ แผลจะบวมน้อย หายไว ไร้รอยแผลเป็น ผลลัพธ์ที่ได้ ดวงตาสวยคม ชั้นตาชัดเจน และ ยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ
  • เปิดหัวตา หรือ หางตา
    แพทย์จะตัดแต่งหนังตาบริเวณหัวตา หรือ หางตา เพื่อเพิ่มความกว้างของตาค่ะ จากนั้นจะเย็บปิดแผลด้วยความปราณีต ซึ่งแผลจะมีขนาดเล็กมากจนแทบจะมองไม่เห็นรอยแผลเป็นเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ต้องการดวงตาที่กลมโต แต่มีหนังตามาปิดที่บริเวณหัวตา หรือ หางตาค่ะ
  • แก้ไขหนังตาตก
    เป็นการผ่าตัดเพื่อยกกระชับเปลือกตาบนค่ะ วิธีนี้แพทย์จะทำการซ่อนแผลไว้ที่ใต้คิ้วนะคะ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีหนังตาตกบริเวณหางตาค่ะ
  • ผ่าตัดแก้ไขปัญหาตัดถุงใต้ตา
    เป็นการตัดถุงใต้ตาผ่านทางเปลือกตาล่าง เพื่อนำไขมันออกมา ทำให้บริเวณถุงใต้ตาเรียบเนียนยิ่งขึ้นค่ะ
  • ผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา
    เป็นการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมมัดกล้ามเนื้อเปลือกตาที่อ่อนแรงให้กลับมาแข็งแรง ทำให้ตาดูสดใสมากขึ้น และ ที่สำคัญสามารถลืมตาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเลิกคิ้ว เลิกหน้าผาก หรือ เบิ่งตาค่ะ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังทำตาสองชั้น

ปัจจุบันการทำศัลยกรรมตาสองชั้นเป็นที่นิยมอย่างมากเลยก็ว่าได้ค่ะ  ด้วยเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่ชื่นชอบดวงตาที่กลมโต สดใส ดวงตาที่ดูเหมือนรอยยิ้มตลอดเวลา เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า จึงทำให้สาว ๆ หลายคนหันมาทำตาสองชั้นกันมากขึ้นค่ะ แต่ต้องอย่าลืมนะคะว่าการทำศัลยกรรมทุกประเภทนั้นมีความเสี่ยง รวมไปถึงผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดที่อาจเกิดขึ้นหากเราดูแลตัวเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร  คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ  ดังนั้น วันนี้จะเล่าให้ฟังนะคะ ว่าอาการข้างเคียงหลังเข้ารับการผ่าตัดที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับค่ะ 

ผลข้างเคียงระยะสั้น
คือ อาการที่เกิดขึ้นในช่วงระยะ 7-14 วัน หลังผ่าตัด

  • รอยเขียวช้ำ
    อาการนี้สามารถพบได้ทั่วไปหลังการผ่าตัด เนื่องจากใต้ผิวหนังของเรามีเลือดไหลออกมาทำให้เห็นเป็นรอยช้ำเขียวค่ะ มักจะเกิดกับคนที่ฟกช้ำง่าย ทางแก้ที่ดีเลย คือ หมั่นประคบเย็นในช่วงแรก และ ประคบอุ่นในช่วงหลังเพื่อลดอาการช้ำเขียวค่ะ
  • แผลอักเสบ
    หลังการเข้ารับการผ่าตัด ควรหมั่นดูแล และ ทำความสะอาดแผลอย่างดีนะคะ เพราะหากดูแลแผลไม่ดี แผลเปียก ล้างแผลไม่สะอาด อาจจะก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ค่ะ
  • แผลแยก
    สาเหตุมาจาก เทคนิคการเย็บแผล ไหมหลุดเร็วเกินไป หรือ อาการอักเสบค่ะ หากสังเกตุเห็นว่าแผลแยกออกจากกันแนะนำว่าให้รีบพบแพทย์เพื่อรักษานะคะ  เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้แผลไม่สวย ชั้นตาก็ดูไม่สวยงามด้วยค่ะ
  • หลับตาไม่สนิท
    คนไข้บางรายอาจหลับตาได้ไม่สนิท เนื่องจากมีอาการบวมของแผลบริเวณเปลือกตา และ ยาชาค่ะ แต่ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะอาการบวมนี้จะยุบตัวลง และ หายได้เองค่ะ หากมีอาการเคืองตาร่วมด้วย แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมหยอดใส่บริเวณตาระหว่างวันเพื่อบรรเทาการระคายเคืองชั่วคราวนะคะ

ผลข้างเคียงระยะยาว

  • ชั้นตาหลุด
    สาเหตุมาจาก คนไข้มีอาการเคืองตาแล้วขยี้ตาค่ะ  รวมไปถึงการที่แพทย์เลือกใช้เทคนิคที่ไม่เชี่ยวชาญ หากพบว่าชั้นตาหลุดควรปรึกษาแพทย์เพื่อผ่าตัดแก้ไขภายใน 14 วันนะคะ
  • ตาสองชั้น บวมไม่เท่ากัน
    โดยปกติแล้วอาการยุบบวมจะยุบลงเต็มที่หลังจาก 3 เดือนไปแล้ว หากพบว่ามีอาการชั้นตาไม่เท่ากัน อาจมีสาเหตุมาจากการที่แพทย์ผ่าตัดเอาไขมันบริเวณเปลือกตาออกมากจนเกินไป ทำให้เบ้าตาลึก ในบางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วยค่ะ
  • ชั้นตาใหญ่เกินไป
    สาเหตุหลัก ๆ มาจากการเย็บชั้นตาที่สูงเกินไปของแพทย์ค่ะ หรือ ในขั้นตอนการผ่าตัดเอาไขมันบริเวณเปลือกตาออกมากเกินไปนั่นเอง
  • ตาสองชั้นมีรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัดเจน
    โดยปกติแล้วการทำตาสองชั้นจะยุบบวมเต็มที่ และ ดูเรียบเนียนในช่วง 3-6 เดือนนะคะ ทั้งนี้หากคนไข้ดูแลแผลได้ไม่ดีอาจจะเกิดคีลอยด์ ทำให้แผลไม่สวย ไม่เรียบเนียน ได้ค่ะ

ทรงตาสวย ต้องมีลักษณะอย่างไร

นอกไปจากทรงตา สวยที่ถูกหลักโหงวเฮ้งแล้ว ยังมีลักษณะทรงตาสวยที่ศัลยแพทย์ใช้เป็นแนวทางในการผ่าตัดศัลยกรรมชั้นตาให้กับคนไข้ด้วยเช่นเดียวกันค่ะ เรียกได้ว่าดวงตาสวยสมส่วน ตามหลักการแพทย์ และ ถูกหลักโหงวเฮ้ง ซึ่งจะมีลักษณะดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ตาเปิดกว้าง กลมโต มองเห็นตาดำได้อย่างชัดเจน เมื่อลืมตาจะต้องมองเห็นตาดำได้ประมาณ 90% เปลือกตาบนปิดตาดำไม่เกิน 1-2 mm. เท่านั้น
  • ตาดำอยู่กึ่งกลางตาพอดี ระยะของตาขาวบริเวณหัวตา และ หางตา จะมีขนาดเท่า ๆ กัน ทำให้ตาดำอยู่ตรงกึ่งกลางของตาพอดี คนที่มีปัญหาหนังตาตก หัวตาเล็ก มักจะประสบปัญหาตาดำไม่อยู่ตรงจุดกึ่งกลาง ทำให้ดูคล้ายตาเข
  • ขอบตาล่างอยู่ในระดับเดียวกับตาดำ คล้าย ๆ กับรูปตาทรงอัลมอนด์ และ ตาทรงกลม ที่ขอบตาล่างจะอยู่ในระดับพอดีกับตาดำ ไม่ต่ำกว่า หรือ สูงกว่าเพราะจะยิ่งทำให้ตาดูเล็กหรี่ ไม่กลม โต
  • เบ้าตาไม่ลึก ขอบตาไม่โหล ดูสมส่วน เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น มีปัญหากระดูกยุบ ในบางรายอาจมีปัญหาเบ้าตาลึก ขอบตาโหล ทำให้บริเวณ
  • รอบดวงตาดูไม่อวบอิ่ม ไม่สดใส ตาดูเหนื่อยตลอดเวลา แพทย์อาจใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อย้ายไขมันมาเติมให้เต็ม หรือ ใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยเติมเต็มผิวบริเวณรอบดวงตาแทน
  • ชั้นตาพอดีกับรูปตา ไม่ยาวเลยหางตามากเกิน ไป รอยชั้นตาที่ยาวเลยหางตามากเกินไป จะทำหางตาดูตก และ เฉียงลง กลายเป็นตาเศร้า ไม่สดใส และ ทำให้ดูมีอายุ แพทย์อาจใช้วิธีการยกหางตา หรือ ทำตาหางหงส์ หรือ ในบางรายที่ชั้นตายาวเกินไปเพราะเกิดปัญหาหนังตาตก แพทย์อาจใช้การผ่าตัดแบบกรีดยาว เพื่อตัดแต่งเอาหนังตาส่วนเกินออกร่วมด้วย
  • คิ้ว และ ดวงตาไม่ชิดกันมากเกินไป ในบางรายที่บริเวณดวงตาดูเล็ก หรือ เป็นคนคิ้วต่ำ จะทำให้ดวงตา และ คิ้วชิดกันมากเกินไป ทำให้ดวงตาดูไม่กลมเด่น ในบางรายแพทย์อาจจะพิจารณาทำชั้นตา แต่เป็นชั้นตาที่เล็กลงเพื่อไม่ให้ตาชิดกับคิ้วมากเกินไป หรือ อาจใช้การผ่าตัดยกคิ้ว เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น

รูปทรงตาสวย มีแบบไหนบ้าง

  • ตาทรงอัลมอนด์ 
    เป็นทรงตาที่มีความกลมโต และ เรียวยาว ผสมกันได้อย่างลงตัว และ สมส่วน ขอบตาบน และ ขอบตาล่างจะห่างจากขอบตาดำเพียงเล็กน้อย จัดเป็นทรงตา ยอดนิยม
  • ตาทรงกลม หรือ ตากลมโต 
    เป็นทรงตา ที่คล้ายกับตาทรงอัลมอนด์ แต่จะมีความกลมโต มองเห็นตาดำเยอะกว่า ไม่เรียวเท่าทรงอัลมอนด์ ระยะห่างของขอบตาดำ และ ขอบตาคล้ายๆ กัน ทรงตานี้สวย เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน เพราะช่วยเสริมให้หน้าสวยหวาน ดูร่าเริง แจ่มใส
  • ตาเฉียงขึ้น หางตาชี้ หรือ ตาแมว 
    เป็นรูปทรงตา ที่บริเวณหางตาเฉียงขึ้น มีชั้นตาที่ชัดเจน ตาทรงนี้จะเสริมบุคลิกความโฉบเฉี่ยวมาดมั่น
  • ตาเฉียงลง ตาตก
    เป็นทรงตา ที่ช่วงหางตาเฉียงลง ทำให้ดูตาตกตลอดเวลา ใบหน้าดูเศร้า ไม่สดใส
  • ตาชั้นเดียว ตาเล็ก 
    รูปทรงตา นี้พบได้เยอะมากในกลุ่มชาวเอเชียค่ะ คือจะมีชั้นตาเพียงชั้นเดียว ชั้นตาพับไม่ชัด ดวงตาดูหรี่เล็ก

นอกไปจากรูปทรงตา เหล่านี้แล้วนั้น ยังมีปัญหาดวงตาที่พบได้บ่อยเช่นเดียวกันค่ะ

  • ตาชิด เกิดจากดวงตาทั้ง 2 ข้างดูเหมือนอยู่ใกล้กันมากเกินไปจนไม่สมส่วน ซึ่งอาจเกิดจากตาดำทั้งสองข้างชิดหัวตามากเกินไป
  • ตาห่าง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อระยะห่างระหว่างหัวตาทั้งสองข้างกว้างเกินไป แพทย์อาจใช้วิธีการผ่าตัดเปิดหัวตา เพื่อลดระยะห่างระหว่างหัวตาทั้งสองข้าง
  • ตาปรือ เป็นทรงตา ที่มีปัญหาหนังตาตก ทำให้ตาดูปรือเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา และ อาจทำให้ตาทั้งสองข้างดูไม่เท่ากันอีกด้วย แพทย์อาจใช้เทคนิคศัลยกรรมตาสอง
  • ชั้น แบบกรีดสั้น เพื่อจัดชั้นไขมัน เย็บล็อกชั้นตาใหม่ หรือ ผ่าตัดแบบกรีดยาวในกรณีที่มีไขมันเยอะ และ มีเปลือกตาหนา เพื่อปรับให้ตาดูกลมโตมากขึ้น

โหงวเฮ้งตา  หางตา และ ขมับ ที่ดีควรเป็นอย่างไร

โหงวเฮ้งตา, หางตา และ ขมับ (ฮูชีเก็ง) หมายถึง ชีวิตคู่ คู่ครอง ความรัก

ตาที่ดี : ตาดำใส แววตาน่ามอง เป็นจุดรวมสายตา ตาดำ และ ตาขาวตัดกันชัดเจน
ตาที่ไม่ดี : ตาดำไม่ใส แววตาเมื่อมองแล้วแข็งกร้าว คิ้วหนาตาเศร้า ดวงตาไร้จุดหมาย
ลักษณะเด่น
ดวงตา ขมับเต็ม เอิบอิ่ม รับพอดีกับแนวไรผม และ หน้าผาก รอยหางตามีจำนวนไม่มาก ยิ้มเป็นธรรมชาติไม่มีตำหนิ จะหมายถึง การชีวิตคู่ที่สมบูรณ์ ชายจะได้ภรรยาเป็นแม่ศรีเรือน หญิงจะได้สามีดี

ลักษณะด้อย 
หางตามีริ้วรอย มีโหนกแก้มเด่น กระดูกโปน ไม่ว่าชาย หรือ หญิง หมายถึง การอาภัพภรรยา หรือ สามี หรือ หากฝืนโชคชะตาก็จะเป็นคู่ครองที่มีปัญหากันไปตลอดเวลา


โหงวเฮ้งใต้ตาที่ดีควรเป็นอย่างไร

โหงวเฮ้งใต้ตา (หน่ำหนึงเก็ง)  หมายถึง  โชคลาภ ความสบาย

ลักษณะเด่น 
เต็มอิ่ม สีสดใส เรียบ เปล่งปลั่ง หมายถึง การมียศศักดิ์ และ ร่ำรวยศรีสุขไปตลอดชีวิต ลูกหลานเจริญรุ่งเรือง

ลักษณะด้อย
เป็นแอ่งโบ๋ ร่องลึก ถุงใต้ตาเยอะเกินไป หมายถึง ความอาภัพโชค หาคู่ครองยาก หรือ ลูกหลานดื้อ เลี้ยงยาก หากสีดำคล้ำ หมายถึง จะพบปัญหาคู่ครอง และ บุตร อาจจะอาภัพลูก


บทความที่เกี่ยวข้อง

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคืออะไร รักษายังไง
27 ก.ย. 2566

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคืออะไร รักษายังไง

ศัลยกรรมรอบดวงตา
ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากโรค MG แก้ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
30 พ.ย. 2566

ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากโรค MG แก้ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง

ศัลยกรรมรอบดวงตา
จบปัญหา ตาหอยแครง ปัญหาหนักใจของคนทำตาสองชั้น 
30 พ.ย. 2566

จบปัญหา ตาหอยแครง ปัญหาหนักใจของคนทำตาสองชั้น 

ศัลยกรรมรอบดวงตา