Melasma Clear

รักษาฝ้า กระ รอยดำ

Melasma Clear

ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนเป็นกังวลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะทาครีมบำรุงผิว หรือครีมรักษาฝ้า กระ ก็เห็นผลช้าหรือแทบไม่เห็นผลเลยก็ว่าได้ ทำให้หลายคนหันไปพึ่งการปกปิดด้วยการแต่งหน้าหนา ๆ เพื่อกลบรอยฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ ให้มิด


จบปัญหาฝ้าหนา กระ จุดด่างดำ ด้วยโปรแกรมรักษาฝ้า Melasma Clear 

ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนเป็นกังวลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะทาครีมบำรุงผิว หรือครีมรักษาฝ้า กระ ก็เห็นผลช้าหรือแทบไม่เห็นผลเลยก็ว่าได้ ทำให้หลายคนหันไปพึ่งการปกปิดด้วยการแต่งหน้าหนา ๆ เพื่อกลบรอยฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ ให้มิด 

แต่จะดีกว่าไหมหากเลือกรักษาและกำจัดฝ้ากระให้ตรงจุด เนื่องจากในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยในเรื่องการรักษาฝ้า ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสลายฝ้า การเลเซอร์ฝ้า การทำทรีตเมนต์ลดฝ้า ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีมีข้อดีต่างกันไปค่ะ สำหรับในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Melasma Clear ซึ่งเป็นโปรแกรมรักษา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่นับว่าได้ผลดี ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ

สารบัญ


โปรแกรมรักษาฝ้า Melasma Clear คืออะไร 

Melasma Clear คือโปรแกรมรักษา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยการผสมผสานการรักษา 3 รูปแบบ เข้าด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ นั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • เมโสเทอราปีจะช่วยลดเม็ดสีของฝ้าชั้นลึก 
  • เลเซอร์จะช่วยกำจัดเม็ดสีที่ทำงานผิดปกติหรือมีมากเกินไป ทำให้จุดด่างดำ รวมถึงริ้วรอยลดลง 
  • การผลักวิตามินด้วยความเย็นจะช่วยปรนนิบัติผิวให้ผ่อนคลาย คืนความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า 

เมื่อรักษาฝ้าด้วยโปรแกรม Melasma Clear สามารถเห็นได้ชัดว่าฝ้า กระดูจางลงอย่างรวดเร็ว ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น ผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น


ฝ้าคืออะไร 

ฝ้า (Melasma) คือ เป็นภาวะเซลล์ที่สร้างเม็ดสีเมลานินมากผิดปกติ ที่มีลักษณะเป็นปื้นสีเข้มกว่าผิวบนในหน้าตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้มไปจนถึงดำคล้ำ ฝ้ามักขึ้นในบริเวณที่ผิวหน้าได้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เช่น โหนกแก้ม จมูก หน้าผาก รอบๆริมฝีปาก และคาง ส่วนมากฝ้าพบได้ในวัย 30 ปีขึ้นไป ทั้งเพศชายและหญิงที่มีกิจวัตรใช้ชีวิตที่เจอแสงแดด ยูวี อยู่เป็นประจำ


ลักษณะของฝ้ามีทั้งหมดกี่ชนิด 

ลักษณะของฝ้ามีทั้งหมดกี่ชนิด 

  • ฝ้าตื้น
    ลักษณะมีสำน้ำตาลเข้ม เห็นขอบได้อย่างชัดเจน ฝ้าชนิดนี้เกิดง่ายและสามารถรักษาได้ง่ายอีกด้วยค่ะ
  • ฝ้าลึก
    ส่วนใหญ่แล้วจะมีสีอ่อน หรืออาจเป็นสัน้ำตาล เทา หรือม่วงก็ได้ ฝ้าชนิดนี้จพเห็นขอบไม่ชัดเจน แต่รักษาให้หายยาก
  • ฝ้าแดด
    เกิดจากแสดงแดด ซึ่งเป็นผลจากรังแสงยูวีเอ และยูวีบี ที่มีความเข้มข้นสูงเข้าทำลายผิวในระดับลึก กระตุ้นการผลิตเม็ดสีผิวภายในผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหน้าคล้ำเสีย ใบหน้าหมองคล้ำ
  • ฝ้าเลือด
    มีลักษณะเป็นปื้นสีแดง เกิดจากความผิดปดติของระบบเลือดลมและโออร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจากการใช้ยางบางปรถเภทเกี่ยวกับฮอร์โมน ถ้าโดนความร้อนอาจจะมีสีแดงมากกว่าเดิมนั่นเองค่ะ

ฝ้า กระ จุดด่างดำ เกิดจากอะไร 

ฝ้า กระ จุดด่างดำ เกิดจากอะไร 

สาเหตุของการเกิดปัญหาผิวไม่ว่าจะเป็น ฝ้า กระ จุดด่างดำ มีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกเลยค่ะ หากเรารู้ว่าปัญหาเหล่านี้เกิดสาเหตุอะไรก็จะช่วยให้สามารถป้องกันการเกิดปัญหาผิว รวมถึงเลือกวิธีการรักษาได้อย่างถูกต้องและตรงจุดนั่นเองค่ะ 

  • แสงแดด ทั้ง รังสียูวีเอ (UVA) รังสียูวีบี (UVB) ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า
  • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น ช่วงตั้งครรภ์ ช่วงหมดประจำเดือน หรือเข้าสู่ช่วงวัยทอง ฮอร์โมนไม่มั่นคงอาจส่งผลให้การสร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติได้
  • กรรมพันธุ์
  • การอักเสบของผิว หรือสิว ที่ทิ้งรอยดำไว้
  • การรับประทานยาบางชนิดที่กระตุ้นการเกิดฝ้า เช่น ยาคุมกำเนิด
  • เครื่องสำอาง ส่วนผสมบางอย่างในเครื่องสำอางอาจกระตุ้นการเกิดสิวและจุดด่างดำตามมาได้

ปัจจัยใดบ้างที่กระตุ้นให้ฝ้า กระ ชัดขึ้น

  • เมื่อเราได้เข้ารับการรักษาแล้ว ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง แล้วพบว่าเมื่อระยะเวลาผ่านไป ฝ้า กระที่เคยจางลงนั้นกลับมาเป็นอีก หลายคนจึงอาจเกิดคำถามว่าเพราะอะไร ที่ทำให้กระตุ้นให้ฝ้ากลับมาได้ เกิดจากปัจจัยใด ในหัวข้อนี้มีตำคอบ

  • ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ การเข้าสู่วัยทองและวัยหมดประจำเดือน เป็นปัจจัยที่ผู้หญิงหลายคนไม่ทราบ เพราะแค่การตั้งครรภ์ก็ทำให้เกิดฝ้าได้ 

  • ความเครียดสะสม เป็นปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะเมื่อเราเกิดความเครียดร่ายกายจะหลั่งสารอนุมูลอิสระ ส่งผลต่อการทำงานของเม็ดสีเมลานินสะสมจนเกิดกลายเป็นฝ้า 

  • ขาดสารอาหาร/ขาดวิตามิน การทานอาหารไม่ครบหมู่ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดที่ เช่น วิตามินบี 12 วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงโอเมก้า 3 ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวบอบบาง มีฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วย

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ ข้อเสียของการพักผ่อนน้อยนอกจากจะทำให้สุขภาพไม่ดีแล้ว ยังทำให้เกิดฝ้าได้อีกด้วย เพราะหากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้การสร้างสารอนุมูลอิสระทำงานหนักมากขึ้น และยิ่งไปกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินผลิตมากขึ้นตามจึงก่อให้เกิดความหมองคล้ำและจุดด่างดำบนใบหน้านั่นเอง

  • เครื่องสำอาง ผลข้างเคียงจาการเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเสตียรอยด์ ทำให้ผิวบอบบางหรือแพ้ ก่อให้เกิดเลือดรวมตัวเป็นก้อนกระจุกในชั้นใต้ผิวหนังชั้นลึก จึงทำให้เกิดเป็นฝ้าแดงได้ และถือว่าจัดฝ้าที่รักษายาก

  • ผลข้างเคียงจากการทานยา การทานยาบางชนิดก็ส่งผลต่อการเกิดฝ้าได้ง่ายขึ้นเช่น  ยาปฏิชีวนะบางประเภท, ยาที่เกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท้อต่างๆ, ยาแก้อักเสบที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์, เรตินอยด์, ยาลดน้ำตาลในเลือด, ยากันชัก เป็นต้น

  • เชื้อชาติ เป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าชาวเอเชียส่วนใหญ่มีโอกาสเป็นฝ้าได้มากกว่ากลุ่มเชื้อชาติอื่นๆ จากสภาพอากาศ


ฝ้า กระ เป็นได้เฉพาะคนอายุมากเท่านั้นจริงไหม

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าปัญหาเหล่านี้ต้องแก่ก่อนถึงจะเกิดฝ้าและกระ แต่แท้จริงแล้วทั้งฝ้าและกระสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งบางครั้งเกิดจากพันธุกรรม ทำให้บางคนมีกระขึ้นตั้งแต่ในวัยเด็ก ในขณะที่บางคนปรากฏฝ้าและกระชัดบนใบหน้าตอนอายุเยอะ เนื่องจากร่างกายถูกแสงแดดทำร้ายสะสมเป็นเวลานานจนกระทั่งกลายเป็นฝ้าและกระลึกในท้ายที่สุด

นอกจากอายุแล้ว สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าและกระยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น แสงแดด ความร้อน ความเครียดก็มีส่วนสัมพันธ์กับฝ้าโดยตรง เมื่อฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลจะไปกระตุ้นการเกิดเมลานินสะสมจนเกิดเป็นฝ้า กระได้ และยังมีอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นได้แม้อายุน้อย ดังนั้นควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความร้อนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด การทำอาหารหน้าเตา การซาวน่า เพื่อใม่ให้ความร้อนไปกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้น และปล่อยให้ กระ กลายเป็น กระลึก ได้


โปรแกรมรักษาฝ้า Melasma Clear เหมาะกับใครบ้าง 

  • ผู้ที่มีฝ้าตื้น มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลและขอบชัด
  • ผู้ที่มีฝ้าลึก มีลักษณะสีน้ำตาลอมฟ้าหรือสีน้ำตาลอมม่วง เป็นฝ้าที่รักษาหายยาก
  • ผู้ที่มีฝ้าผสม เป็นทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึก สามารถพบได้มากที่สุดในผู้ที่ปัญหาเรื่องฝ้า
  • ผู้ที่มีกระ มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล มักเป็นบริเวณใบหน้าหรือส่วนที่โดนแสงแดดบ่อยๆ
  • ผู้ที่มีรอยสิว รอยแดง สาเหตุจากสิวที่เกิดการช้ำจนกลายเป็นสีเข้มขึ้น เห็นเป็นสีน้ำตาลจนถึงเกือบดำ โดยมักจะพบในผู้ที่มีผิวคล้ำง่าย
  • ผู้ที่มีจุดดด่างดำ ผิวหนังที่มีการอักเสบจะเกิดรอยดำหลังการอักเสบขึ้นได้
  • ผู้ที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ  สาเหตุจากแดดที่ทำให้ใบหน้าและผิวพรรณดูโทรม ไม่สดใส เนื่องจากผิวผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากขึ้น 
  • ผู้ที่ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง  สาเหตุจากภาวะขาดน้ำยังทำให้ปัญหาริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยตามมา

การรักษาฝ้ากระมีกี่วิธี สามารถหายขาดได้เลยไหม

การรักษาฝ้ากระนั้นสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปด้วย และสามารถรักษาโดยวิธีต่างๆ เหล่านี้ร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่มากกว่านั้นก็คือ

  • การทำทรีทเม้นท์รักษาฝ้ากระ
    การใช้วิธีรักษาฝ้าแบบธรรมชาติด้วยสูตรสมุนไพรอย่างพืชผักและผลไม้ในครัว สามารถช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานินบนผิวหน้าได้ จึงสามารถช่วยทำให้ฝ้าบนใบหน้าจางลง
  • การทาครีมบำรุงรักษาฝ้ากระ
    เพราะ รังสี UV ในแสงแดดคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า อาจส่งผลให้ฝ้าที่เป็นอยู่มีสีเข้มขึ้น ทั้งยังทำให้เกิดฝ้าใหม่เพิ่มได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนออกไปกลางแจ้งควรทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป และควรมีค่า PA+++ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดทั้ง UVA และ UVB
  • การทำเมโสหน้าใส หรือเมโสฝ้ากระ
    การฉีดเมโสหน้าใสลดฝ้าอย่างต่อเนื่อง สามารถช่วยชะลอการกระจายของฝ้าได้แต่ไม่มาก ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้าและความเข้มของฝ้าบนใบหน้า เมโสลดฝ้าจึงไม่เหมาะกับคนที่มีฝ้าหนาเป็นปื้น ๆ ซึ่งวิธีนี้ผิวหนังจะได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าการทำเลเซอร์
  • การทำเลเซอร์ทำลายเม็ดสีเมลานิน
    การเลเซอร์ฝ้า (Laser) เป็นการยิงเพื่อรักษาและปรับสภาพผิว ซึ่งใช้พลังงานความร้อนเพื่อกำจัดเม็ดสีของบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรง และอาจทำให้ผิวหลังการรักษาไวต่อแสง เพราะฉะนั้น 7-14 วัน หลังทำเลเซอร์ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และควรบำรุงผิวเป็นพิเศษเพราะหลังทำเลเซอร์อาจทิ้งแผลตกสะเก็ดไว้บนใบหน้า
  • การทายาลดเม็ดสีผิวที่ต้องสั่งและดูแลโดยแพทย์

แต่ทั้งนี้วิธีข้างต้นยังไม่มีวิธีไหนที่รักษาปัญหาฝ้ากระให้หายขาดได้ แต่สามารถที่จะดูแลและรักษาเพื่อชะลอการกระจายของฝ้า ไม่ให้ฝ้ากระนั้นเกิดเพิ่มขึ้นได้ และช่วยรักษาให้ฝ้ากระที่มีสีเข้มๆ นั้นแลดูจางลงเรื่อยๆ


สาเหตุที่ฝ้ามักขึ้นบริเวณแก้ม 

ตัวการสำคัญในการเกิดฝ้าคือแสงแดด หากเทียบกันทั่วใบหน้าแล้ว จะพบว่าบริเวณที่โดนแสงแดดมากที่สุดคือบริเวณหน้าผาก สันจมูก และโหนกแก้ม เป็นเพราะบริเวณดังกล่าวค่อนข้างโหนกนูนจึงโดนแสงแดดกระทบมากที่สุดและทำให้เกิดฝ้าได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ


โปรแกรมรักษาฝ้า Meso Melasma รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำได้จริงหรือไม่ 

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ฝ้า กระ จุดด่างดำ เกิดขึ้นจากภาวะที่ผิวหนังบางจุดมีสีเข้มขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำ โดยสาเหตุมาจากร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไปในบางตำแหน่งของผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าแลดูหมองคล้ำไม่ขาวกระจ่างใส ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ คือ แสงแดด ซึ่งการรักษาฝ้าต้องควบคุมให้เซลล์สีทำงานลดลงด้วยยา การฉีดเมโสจะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิว โดยตัวยาจะซึมเข้าสู่ผิวได้ทันทีจึงเป็นการช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ ที่สำคัญคือให้ผลไวกว่าทาครีมมาก


ขั้นตอนการรักษาฝ้า กระ ด้วยโปรแกรมรักษาฝ้า Melasma Clear 

 โปรแกรมรักษาฝ้า ด้วย Melasma Clear มีขั้นตอนการรักษา 5 ขั้นตอนดังนี้ค่ะ

  1. ทำความสะอาดผิวหน้า บริเวณที่ต้องการทำหัตถการ
  2. ระงับความเจ็บปวดโดยการทายาชาบริเวณที่ต้องการทำหัตถการ
  3. จากนั้นเริ่มทำหารลดเม็ดสีของฝ้าชั้นลึก กระตุ้นคอลลาเจน ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส
  4. Meso Melasma ลดเม็ดสีของฝ้าชั้นลึก กระตุ้นคอลลาเจน ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส โดยการฉีด Meso Melasma

โปรแกรมรักษาฝ้า Melasma Clear ดีอย่างไร

  • เม็ดสีของผิวชั้นลึกที่ทำงานผิดปกติลดเลือนลง
  • ฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดเลือนลงตั้งแต่ในครั้งแรก
  • หากทำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ ฝ้าจะจางลงจนหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
  • ใช้เวลาในการทำไม่นาน และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จ
  • สามารถรักษาฝ้ากระได้อย่างตรงจุด
  • เห็นผลได้ไวกว่าการรักษาโดยการทาครีม
  • เป็นหัตถการที่ไม่เจ็บมากนัก

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการโปรแกรมรักษาฝ้า Melasma Clear

สิ่งที่ควรปฏิบัติก่อนทำเลเซอร์ฝ้า คนไข้ต้องเข้าใจว่าการทำเลเซอร์ฝ้านั้นไม่ใช่แค่การทำหน้าทั่วไปเพราะการเลเซอร์นั้นคนไข้ต้องดูแลผิวเป็นพิเศษด้วย ดังนั้นจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการ

  • ควรเลือกคลินิกที่มีหัตถการเลเซอร์ฝ้าใช้เครื่องมือที่ทันสมัยและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำก่อนทำ
  • ในระหว่างปรึกษาแพทย์ ควรถามรายละเอียดขั้นตอนการทำ รวมถึงการใช้ยาต่างๆ ในกรณีหากคนไข้นั้นแพ้ยาชา อาการผลข้างเคียง การดูแลหลังทำ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
  • หาข้อมูลผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการทำ Melasma Clear
  • คนไข้ต้องเตรียมตัวเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน หากเป็นคนนอนดึก ทำงานกลางแจ้ง สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ต้องงดกิจวัตรนั้นๆ เพื่อให้ผลลัพธ์หลังทำได้ผลดีขึ้น
  • ควรพักผ่อนให้เพียงพอ 
  • สำหรับคนไข้ที่มีผิวบาง เป็นแผลเป็นง่าย ต้องดูแลผิวอย่างเป็นพิเศษ
  • ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง ก่อนการทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือแสบผิว
  • ควรเตรียมครีมมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า เนื่องจากหลังทำเลเซอร์ไปแล้ว อาจเกิดผิวแห้งกร้าน และช่วยบรรเทาอาการแสบผิวได้
  • ควรงดทาครีมที่มีส่วนผสมของ เรตินอยด์ ,  AHA , BHA เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้ทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงง่ายขึ้น
  • สามารถดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้เซลล์ที่ถูกทำลายไปแล้วกลับมาดียิ่งขึ้นได้

ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังทำ Melasma Clear

  • แนะนำให้ป้องกันผิวด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF เพื่อป้องกันแสงแดดและมลภาวะต่าง ๆ
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบหรี่หลังการฉีดประมาณ 7 วัน
  • รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ เน้นทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และดื่มน้ำวันละมาก ๆ
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับความร้อน เช่น การทำซาวน่า การเลเซอร์บริเวณใบหน้า ประมาณ 7 วัน
  • ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำรอยแดงเพิ่มขึ้น
  • ไม่บีบ แกะ สิว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยดำต่าง ๆ

วิธีเลือกคลินิกรักษาฝ้า ควรเลือกอย่างไร

นอกจากการศึกษาข้อมูลแล้วว่าสภาพผิวของเราเหมาะกับกับรักษาด้วยวิธีไหนแล้ว เราต้องคำนึงถึงการเลือกคลินิกที่จะรักษาด้วยว่าควรเลือกอย่างไร ถึงจะเหมาะกับเราและเห็นผลตามที่เราต้องการ

  • พิจารณาโปรแกรมรักษาฝ้า Melasma Clear เป็นการฉีด Meso Melasma ลดเม็ดสีของฝ้าชั้นลึก กระตุ้นคอลลาเจน ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส
  • พิจารณาการเลือกคอร์สรักษาฝ้า การตัดสินใจซื้อคอร์สนั้นเราต้องคำนึงถึงผลลัพธ์มากที่สุดอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันต้องดูว่าคอร์สที่เราเลือกรักษาคุ้มค่าหรือไม่ ในกรณีผู้ที่เป็นฝ้าเยอะ ฝ้าหนา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการรักษาจะเห็นผลชัดเจนจริงๆ คือเข้ารับการรักษา 3 – 5 ครั้ง ดังนั้นจึงแนะนำเลือกซื้อเป็นคอร์สเพราะคลินิกที่มีคอร์สรักษาฝ้า มักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดในราคาซื้อเป็นคอร์สจึงคุ้มค่ากว่าการซื้อเป็นครั้ง ๆ
  • ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ นอกจากจะต้องเลือกใช้ตัวยาที่มีประสิทธิภาพแล้ว ต้องเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวหนังโดยเฉพาะทำการรักษาให้คนไข้โดยตรงด้วย เนื่องจากการรักษาในแต่ละครั้ง ควรผ่านการปรึกษาแพทย์และประเมินสภาพผิวก่อนได้รับการรักษา เพื่อให้คนไข้ได้รับการรักษาอย่างตรงจุดและได้รับความปลอดภัยในการใช้บริการ 

สรุป  การเลือกคลินิกเพื่อรักษาฝ้าต้องพิจารณาจากข้อแนะนำดังกล่าวข้างต้น  ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการรักษาฝ้าด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ของคนไข้เป็นไปตามที่ต้องการ


รวมคำถามที่พบบ่อยสำหรับการทำ Melasma Clear

Q:ฉีดฝ้าดีไหม
A:หลายคนอาจขเกิดข้อสงสัยว่าฉีดฝ้าดีไหม ? เมโสหน้าใสช่วยรักษาฝ้าได้หรือไม่ ? ต้องอธิบายก่อนว่าเมโสหน้าใส มีหลายสูตร แต่ละสูตรมีจุดเด่นที่ต่างกัน สำหรับเมโสหน้าใส สูตรลดฝ้าควรให้หมอตรวจประเมินเพื่อปรับสูตรเมโสให้เหมาะกับสภาพผิว และความต้องการของแต่คนค่ะ เช่น

  • Made Collagen ลดสิว ลดผื่น
  • Tensonez ผิวขาว ใส ลดฝ้า
  • Neo-Glutanex Glow ช่วยลดฝ้า ปรับสีผิวกระจ่างใส
  • Filorga ช่วยผิวขาวใส ลดฝ้า และบำรุงผิวล้ำลึก
  • Alpha arbutin เน้นลดฝ้าโดยตรง
  • รักษาฝ้า ด้วยโปรแกรม Melasma Clear ซึ่งผลลัพธ์หลังฉีดเมโสฝ้า สามารถชะลอการกระจายของฝ้า และช่วยให้จางลงได้ 20-50 % ในบางเคส โดยผลการรักษาแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและชนิดของฝ้าด้วย

Q:เมโสฝ้ากระทำแล้วเห็นผลเลยไหม
A:การฉีดเมโสเป็นการช่วยชะลอการเกิดและกระจายตัวของฝ้า และช่วยให้จางลงได้ แต่ไม่สามารถทำให้ฝ้าหายไปได้เลยร้อยเปอร์เซนต์ หลังฉีดเราจะเริ่มสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ว่าฝ้า กระ จุดด่างดำ จะค่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ ภายใน 1-2 อาทิตย์ ส่วนการรักษานั้นควรกลับมาฉีดอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดี และฝ้ากระที่จางลงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผลการรักษาจะเห็นได้ช้าหรือไวก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตนเองหลังฉีดของแต่ละคนด้วยค่ะ

Q:ฉีดฝ้า มีผลข้างเคียงไหม
A:การฉีดฝ้า หรือฉีดเมโสหน้าใสลดฝ้า เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลที่ได้มาตรฐาน ตัวยาเมโสแท้ที่ฉีดจะเป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงให้ผิวให้ขาว ใส สุขภาพดีขึ้น หลังฉีดเสร็จทันทีจะมีรอยเข็มตามใบหน้า ซึ่งรอยเข็มเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-3 วัน บางเคสมีตุ่มนูน ๆ เล็ก ๆ ตรงบริเวณที่ฉีด แต่เมื่อตัวยาซึมเข้าผิวหมดแล้วก็จะยุบลงไปเอง ด้านผลข้างเคียงที่หลาย ๆ คน กลัว ส่วนใหญ่มาจาก ฉีดเมโสลดฝ้าด้วยตัวยาที่ไม่มีคุณภาพ ซื้อตัวยามาฉีดกันเอง ฉีดกับหมอกระเป๋า ความสะอาดไม่เพียงพอ ซึ่งเสี่ยงต่อการอักเสบ ติดเชื้อ และผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ยากจะคาดเดาจากตัวยาเมโสปลอม ที่ไม่ทราบส่วนประกอบ

Q:หลังฉีดเมโสฝ้ากระ ผลการรักษาอยู่ได้นานไหม ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อย ๆ หรือเปล่า
A:หลังฉีดเมโสหน้าใส จะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน หรือนานกว่านั้นแต่จะขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโส หากอยากให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพในช่วงเดือนแรกควรฉีดทุกสัปดาห์ หลังจากนั้นฉีดทุกๆ  2 สัปดาห์ เพื่อคงสภาพ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและปลอดภัยก่อนตัดสินใจฉีดเมโสฝ้ากระ ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ให้การรักษาโดยแพทย์ทีมีประสบการณ์ พร้อมตรวจสอบตัวยาว่าเป็นเมโสของแท้เท่านั้น หรือให้หมอแกะกล่องผสมยาต่อหน้า


ความงามที่เกี่ยวข้อง