รักษาฝ้า กระ รอยดำ
ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนเป็นกังวลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะทาครีมบำรุงผิว หรือครีมรักษาฝ้า กระ ก็เห็นผลช้าหรือแทบไม่เห็นผลเลยก็ว่าได้ ทำให้หลายคนหันไปพึ่งการปกปิดด้วยการแต่งหน้าหนา ๆ เพื่อกลบรอยฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ ให้มิด
ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนเป็นกังวลอยู่เสมอ ไม่ว่าจะทาครีมบำรุงผิว หรือครีมรักษาฝ้า กระ ก็เห็นผลช้าหรือแทบไม่เห็นผลเลยก็ว่าได้ ทำให้หลายคนหันไปพึ่งการปกปิดด้วยการแต่งหน้าหนา ๆ เพื่อกลบรอยฝ้า กระ จุดด่างดำต่าง ๆ ให้มิด
แต่จะดีกว่าไหมหากเลือกรักษาและกำจัดฝ้ากระให้ตรงจุด เนื่องจากในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยในเรื่องการรักษาฝ้า ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสลายฝ้า การเลเซอร์ฝ้า การทำทรีตเมนต์ลดฝ้า ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีมีข้อดีต่างกันไปค่ะ สำหรับในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ Melasma Clear ซึ่งเป็นโปรแกรมรักษา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่นับว่าได้ผลดี ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้มากที่สุดค่ะ
Melasma Clear คือโปรแกรมรักษา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วยการผสมผสานการรักษา 3 รูปแบบ เข้าด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ นั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เมื่อรักษาฝ้าด้วยโปรแกรม Melasma Clear สามารถเห็นได้ชัดว่าฝ้า กระดูจางลงอย่างรวดเร็ว ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น ผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น
ฝ้า (Melasma) คือ เป็นภาวะเซลล์ที่สร้างเม็ดสีเมลานินมากผิดปกติ ที่มีลักษณะเป็นปื้นสีเข้มกว่าผิวบนในหน้าตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้มไปจนถึงดำคล้ำ ฝ้ามักขึ้นในบริเวณที่ผิวหน้าได้สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เช่น โหนกแก้ม จมูก หน้าผาก รอบๆริมฝีปาก และคาง ส่วนมากฝ้าพบได้ในวัย 30 ปีขึ้นไป ทั้งเพศชายและหญิงที่มีกิจวัตรใช้ชีวิตที่เจอแสงแดด ยูวี อยู่เป็นประจำ
สาเหตุของการเกิดปัญหาผิวไม่ว่าจะเป็น ฝ้า กระ จุดด่างดำ มีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกเลยค่ะ หากเรารู้ว่าปัญหาเหล่านี้เกิดสาเหตุอะไรก็จะช่วยให้สามารถป้องกันการเกิดปัญหาผิว รวมถึงเลือกวิธีการรักษาได้อย่างถูกต้องและตรงจุดนั่นเองค่ะ
เมื่อเราได้เข้ารับการรักษาแล้ว ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง แล้วพบว่าเมื่อระยะเวลาผ่านไป ฝ้า กระที่เคยจางลงนั้นกลับมาเป็นอีก หลายคนจึงอาจเกิดคำถามว่าเพราะอะไร ที่ทำให้กระตุ้นให้ฝ้ากลับมาได้ เกิดจากปัจจัยใด ในหัวข้อนี้มีตำคอบ
ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ การเข้าสู่วัยทองและวัยหมดประจำเดือน เป็นปัจจัยที่ผู้หญิงหลายคนไม่ทราบ เพราะแค่การตั้งครรภ์ก็ทำให้เกิดฝ้าได้
ความเครียดสะสม เป็นปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะเมื่อเราเกิดความเครียดร่ายกายจะหลั่งสารอนุมูลอิสระ ส่งผลต่อการทำงานของเม็ดสีเมลานินสะสมจนเกิดกลายเป็นฝ้า
ขาดสารอาหาร/ขาดวิตามิน การทานอาหารไม่ครบหมู่ ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดที่ เช่น วิตามินบี 12 วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงโอเมก้า 3 ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวบอบบาง มีฝ้า กระ จุดด่างดำ ด้วย
พักผ่อนไม่เพียงพอ ข้อเสียของการพักผ่อนน้อยนอกจากจะทำให้สุขภาพไม่ดีแล้ว ยังทำให้เกิดฝ้าได้อีกด้วย เพราะหากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้การสร้างสารอนุมูลอิสระทำงานหนักมากขึ้น และยิ่งไปกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินผลิตมากขึ้นตามจึงก่อให้เกิดความหมองคล้ำและจุดด่างดำบนใบหน้านั่นเอง
เครื่องสำอาง ผลข้างเคียงจาการเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของเสตียรอยด์ ทำให้ผิวบอบบางหรือแพ้ ก่อให้เกิดเลือดรวมตัวเป็นก้อนกระจุกในชั้นใต้ผิวหนังชั้นลึก จึงทำให้เกิดเป็นฝ้าแดงได้ และถือว่าจัดฝ้าที่รักษายาก
ผลข้างเคียงจากการทานยา การทานยาบางชนิดก็ส่งผลต่อการเกิดฝ้าได้ง่ายขึ้นเช่น ยาปฏิชีวนะบางประเภท, ยาที่เกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท้อต่างๆ, ยาแก้อักเสบที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์, เรตินอยด์, ยาลดน้ำตาลในเลือด, ยากันชัก เป็นต้น
เชื้อชาติ เป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าชาวเอเชียส่วนใหญ่มีโอกาสเป็นฝ้าได้มากกว่ากลุ่มเชื้อชาติอื่นๆ จากสภาพอากาศ
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าปัญหาเหล่านี้ต้องแก่ก่อนถึงจะเกิดฝ้าและกระ แต่แท้จริงแล้วทั้งฝ้าและกระสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งบางครั้งเกิดจากพันธุกรรม ทำให้บางคนมีกระขึ้นตั้งแต่ในวัยเด็ก ในขณะที่บางคนปรากฏฝ้าและกระชัดบนใบหน้าตอนอายุเยอะ เนื่องจากร่างกายถูกแสงแดดทำร้ายสะสมเป็นเวลานานจนกระทั่งกลายเป็นฝ้าและกระลึกในท้ายที่สุด
นอกจากอายุแล้ว สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าและกระยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น แสงแดด ความร้อน ความเครียดก็มีส่วนสัมพันธ์กับฝ้าโดยตรง เมื่อฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลจะไปกระตุ้นการเกิดเมลานินสะสมจนเกิดเป็นฝ้า กระได้ และยังมีอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นได้แม้อายุน้อย ดังนั้นควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความร้อนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด การทำอาหารหน้าเตา การซาวน่า เพื่อใม่ให้ความร้อนไปกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้น และปล่อยให้ กระ กลายเป็น กระลึก ได้
การรักษาฝ้ากระนั้นสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปด้วย และสามารถรักษาโดยวิธีต่างๆ เหล่านี้ร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่มากกว่านั้นก็คือ
แต่ทั้งนี้วิธีข้างต้นยังไม่มีวิธีไหนที่รักษาปัญหาฝ้ากระให้หายขาดได้ แต่สามารถที่จะดูแลและรักษาเพื่อชะลอการกระจายของฝ้า ไม่ให้ฝ้ากระนั้นเกิดเพิ่มขึ้นได้ และช่วยรักษาให้ฝ้ากระที่มีสีเข้มๆ นั้นแลดูจางลงเรื่อยๆ
ตัวการสำคัญในการเกิดฝ้าคือแสงแดด หากเทียบกันทั่วใบหน้าแล้ว จะพบว่าบริเวณที่โดนแสงแดดมากที่สุดคือบริเวณหน้าผาก สันจมูก และโหนกแก้ม เป็นเพราะบริเวณดังกล่าวค่อนข้างโหนกนูนจึงโดนแสงแดดกระทบมากที่สุดและทำให้เกิดฝ้าได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ฝ้า กระ จุดด่างดำ เกิดขึ้นจากภาวะที่ผิวหนังบางจุดมีสีเข้มขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดเป็นจุดด่างดำ โดยสาเหตุมาจากร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไปในบางตำแหน่งของผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าแลดูหมองคล้ำไม่ขาวกระจ่างใส ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ คือ แสงแดด ซึ่งการรักษาฝ้าต้องควบคุมให้เซลล์สีทำงานลดลงด้วยยา การฉีดเมโสจะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิว โดยตัวยาจะซึมเข้าสู่ผิวได้ทันทีจึงเป็นการช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ ที่สำคัญคือให้ผลไวกว่าทาครีมมาก
โปรแกรมรักษาฝ้า ด้วย Melasma Clear มีขั้นตอนการรักษา 5 ขั้นตอนดังนี้ค่ะ
สิ่งที่ควรปฏิบัติก่อนทำเลเซอร์ฝ้า คนไข้ต้องเข้าใจว่าการทำเลเซอร์ฝ้านั้นไม่ใช่แค่การทำหน้าทั่วไปเพราะการเลเซอร์นั้นคนไข้ต้องดูแลผิวเป็นพิเศษด้วย ดังนั้นจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับบริการ
นอกจากการศึกษาข้อมูลแล้วว่าสภาพผิวของเราเหมาะกับกับรักษาด้วยวิธีไหนแล้ว เราต้องคำนึงถึงการเลือกคลินิกที่จะรักษาด้วยว่าควรเลือกอย่างไร ถึงจะเหมาะกับเราและเห็นผลตามที่เราต้องการ
สรุป การเลือกคลินิกเพื่อรักษาฝ้าต้องพิจารณาจากข้อแนะนำดังกล่าวข้างต้น ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการรักษาฝ้าด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ของคนไข้เป็นไปตามที่ต้องการ
Q:ฉีดฝ้าดีไหม
A:หลายคนอาจขเกิดข้อสงสัยว่าฉีดฝ้าดีไหม ? เมโสหน้าใสช่วยรักษาฝ้าได้หรือไม่ ? ต้องอธิบายก่อนว่าเมโสหน้าใส มีหลายสูตร แต่ละสูตรมีจุดเด่นที่ต่างกัน สำหรับเมโสหน้าใส สูตรลดฝ้าควรให้หมอตรวจประเมินเพื่อปรับสูตรเมโสให้เหมาะกับสภาพผิว และความต้องการของแต่คนค่ะ เช่น
Q:เมโสฝ้ากระทำแล้วเห็นผลเลยไหม
A:การฉีดเมโสเป็นการช่วยชะลอการเกิดและกระจายตัวของฝ้า และช่วยให้จางลงได้ แต่ไม่สามารถทำให้ฝ้าหายไปได้เลยร้อยเปอร์เซนต์ หลังฉีดเราจะเริ่มสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ว่าฝ้า กระ จุดด่างดำ จะค่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ ภายใน 1-2 อาทิตย์ ส่วนการรักษานั้นควรกลับมาฉีดอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดี และฝ้ากระที่จางลงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผลการรักษาจะเห็นได้ช้าหรือไวก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตนเองหลังฉีดของแต่ละคนด้วยค่ะ
Q:ฉีดฝ้า มีผลข้างเคียงไหม
A:การฉีดฝ้า หรือฉีดเมโสหน้าใสลดฝ้า เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลที่ได้มาตรฐาน ตัวยาเมโสแท้ที่ฉีดจะเป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงให้ผิวให้ขาว ใส สุขภาพดีขึ้น หลังฉีดเสร็จทันทีจะมีรอยเข็มตามใบหน้า ซึ่งรอยเข็มเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-3 วัน บางเคสมีตุ่มนูน ๆ เล็ก ๆ ตรงบริเวณที่ฉีด แต่เมื่อตัวยาซึมเข้าผิวหมดแล้วก็จะยุบลงไปเอง ด้านผลข้างเคียงที่หลาย ๆ คน กลัว ส่วนใหญ่มาจาก ฉีดเมโสลดฝ้าด้วยตัวยาที่ไม่มีคุณภาพ ซื้อตัวยามาฉีดกันเอง ฉีดกับหมอกระเป๋า ความสะอาดไม่เพียงพอ ซึ่งเสี่ยงต่อการอักเสบ ติดเชื้อ และผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ยากจะคาดเดาจากตัวยาเมโสปลอม ที่ไม่ทราบส่วนประกอบ
Q:หลังฉีดเมโสฝ้ากระ ผลการรักษาอยู่ได้นานไหม ต้องกลับมาฉีดซ้ำบ่อย ๆ หรือเปล่า
A:หลังฉีดเมโสหน้าใส จะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน หรือนานกว่านั้นแต่จะขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโส หากอยากให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพในช่วงเดือนแรกควรฉีดทุกสัปดาห์ หลังจากนั้นฉีดทุกๆ 2 สัปดาห์ เพื่อคงสภาพ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและปลอดภัยก่อนตัดสินใจฉีดเมโสฝ้ากระ ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ให้การรักษาโดยแพทย์ทีมีประสบการณ์ พร้อมตรวจสอบตัวยาว่าเป็นเมโสของแท้เท่านั้น หรือให้หมอแกะกล่องผสมยาต่อหน้า