ค่านิยมในสมัยนี้นั้นก็คือผิวขาว วัยรุ่นทั้งหลายจึงแห่กันไปฉีดกลูต้าให้ขาว ซึ่งกลูต้าไธโอนมีอยู่เกลื่อนมากมายเเต่จะรู้ไหมว่าสิ่งที่น้องๆสนใจอยู่นั้นกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเตือนอันตรายจากการใช้สารกลูตาไธโอน ว่า หากฉีดเข้าร่างกายในปริมาณเข้มข้นสูงจะเกิดความเสี่ยงช็อก ความดันโลหิตต่ำ แพ้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งยืนยันว่ายังไม่มีการขึ้นทะเบียนเป็นตำรับยาในประเทศไทย หากพบการลักลอบจำหน่าย ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้ ยังเป็นการขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เนื่องจากตัวยากลูตาไธโอน มีความไม่คงตัวในกระแสเลือด สลายตัวได้ง่ายและรวดเร็ว ในกรณีของการฉีดเข้าเส้นเลือดดำเพื่อหวังผลให้ผิวขาว โดยมากแพทย์มักจะฉีดร่วมกับวิตามินซี หากฉีดในความเข้มข้นสูง และฉีดอาทิตย์ละ 2 ครั้งนอกจากจะเสียเงินมากแล้ว ที่สำคัญ การฉีดในความเข้มข้นสูง อาจทำให้ช็อค ความดันต่ำ เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง กล้ามเนื้อสั่น ประสาทหลอน หายใจติดขัด หลอดลมตีบ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และผู้ที่ได้รับยาฉีดผิวขาวนี้นานๆเป็นประจำ อาจทำให้เม็ดสีที่จอตาลดลง ทำให้รับแสงได้น้อยลง เสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต ทางวารสารการแพทย์ในสหรัฐอเมริกา จึงจัดสารกลูตาไธโอนเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางสายตาค่ะ
อย่างไรก็ตามผิวของเรานั้นก็มีความสวยงามธรรมชาติกันอยู่เเล้ว ไม่จำเป็นต้องมีผิวขาวตามกระเเส บางคนมีผิวเเทน ผิวสีน้ำผึ้ง ก็มีความสวยสุขภาพดีไปอีกแบบ หากน้องๆคนไหนที่อยากมีผิวกระจ่างใสยังมีวิธีที่ดีกว่านี้อีกนะคะ ไม่ว่าจะเป็น การดูเเลร่างกายจากภายใน การรับปะทานให้มีประโยชน์ จำพวกผลไม้ที่มีวิตามินซี รับประทานวิตามิน อาหารเสริม รวมถึงสครับผิวด้วยมะขามเปียก ต่างๆเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล กระจ่างใสได้ดียิ่งขึ้น และไม่ต้องเสี่ยงเป็นอันตรายมากกว่าการไปฉีดกลูต้าไธโอน อีกด้วยค่ะ