ทุเรียน ได้ชื่อว่าเป็น"ราชาผลไม้" เลยนะคะ ซึ่งเป็นที่นิยมกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยก็ว่าได้ ด้วยรสชาติที่หวานอร่อย เย้ายวนใจ จึงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน ทำให้สาวกทุเรียนบางคนเกิดข้อสงสัยว่า เอ๊ะ!! หลังเสริมจมูกไปแล้วเนี่ย สามารถกินทุเรียนได้ หรือ เปล่านะ? วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันค่ะ
โดยปกติแล้วทางการแพทย์ยังไม่มีงานวิจัยที่พิสูจน์เกี่ยวกับการกินทุเรียนหลังผ่าตัดศัลยกรรมนะคะ แต่เพื่อความปลอดภัยควรงดรับประทานไปก่อนนะ รอให้แผลหายดีก่อนอย่างน้อย 1 เดือนนะคะ จึงจะสามารถทานได้โดยไม่มีผลกระทบตามมาค่ะ
ทั้งนี้สาเหตุเป็นเพราะว่ามีคนไข้บางคนหลังเสริมจมูกไปแล้วเนี่ย เกิดความรู้สึกอยากกินทุเรียนมากเลยค่ะ อดใจไม่ไหวแล้ว!! ขอกินหน่อยแล้วกัน ดังนั้นเข้าวลีนี้เลยค่ะ “อร่อยปาก ลำบากหมอ” ซึ่งผลกระทบที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็น แผลผ่าตัดหายช้ากว่าปกติ แผลปิดไม่ค่อยสนิทดีเท่าที่ควร ที่สำคัญปากแผลเปื่อยมากกว่าคนทั่วไป ในบางรายเกิดแผลเป็นนูน หรือ คีลอยด์ตามมาอีกด้วยนะ
ดังนั้นถ้าไม่อยากงานเข้า คนไข้ต้องใจเย็น ๆ อดใจรอแผลหายนิดนึงนะ และ ที่สำคัญควรศึกษารายละเอียดข้อยกเว้นด้านอาหารจากแพทย์อย่างถี่ถ้วนนะคะ เพื่อความสวย เป๊ะปัง อลังเวอร์ของจมูกเราค่ะ
อาหารที่ควรงดหลังทำจมูก
- อาหารรสจัด เผ็ดจัด
เนื่องจากอาหารรสชาติเผ็ดจัด จะทำให้สารคัดหลั่ง หรือ น้ำมูกไหลที่หากเข้าไปในแผลผ่าตัดอาจจะทำให้เกิดการอักเสบ และ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้นั่นเอง
- อาหารหมักดอง
เมนูอาหารหมักดองทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ปลาร้า กิมจิ ผักกาดดอง ไช้เท้าดอง เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
- อาหารไม่ผ่านการปรุงให้สุก
เมนูซาซิมิ กุ้งแช่น้ำปลา ทั้งหลายก็ควรงดก่อนค่ะ เพราะในอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ นั้นอาจจะมีเชื้อที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และ ทำให้จมูกเข้าที่ช้าได้
- บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ควรงดดื่มในช่วง 7-14 วันแรกของการทำจมูก เพราะเสี่ยงเกิดการติดเชื้อที่แผลได้
- อาหารทะเล
มักจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย ดังนั้นในช่วง 7-14 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงก่อนจะดีที่สุดค่ะ
- อาหารรสเค็ม
อาหารรสเค็ม มักจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำ และ อาจจะส่งผลให้เกิดอาจจะทำให้ใบหน้าบวม หรือ บริเวณแผลบวมได้ ดังนั้นควรเลี่ยงไปก่อนจะดีที่สุด
- วิตามิน และ อาหารเสริมต่าง ๆ
วิตามินอี แปะก๊วย โสม น้ำมันปลา ยารักษาสิวบางชนิด ควรงดก่อน และ หลังทำจมูกค่ะ เนื่องจากสารอาหารจากยาบางชนิดอาจจะส่งผลต่ออัตราการแข็งตัวของเลือด หากมียาที่ต้องทานเป็นประจำ หรือ ยาประจำตัวควรปรึกษาหมอก่อนการทำจมูกค่ะ
-
กาแฟ
ในช่วงแรกอาจจะงดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนไปก่อน เพื่อให้สามารถนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และ ให้ร่างกายฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลให้แผลสมานตัวเร็วขึ้นด้วย
-
ปลาร้า
ปลาร้า ถือเป็นหนึ่งในเมนูของหมักดองที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากเมนูอาหารหมักดอง สุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ปลาร้า แหนม ผักดอง ปูดอง อาจเป็นสาเหตุทำให้แผลติดเชื้อได้จากความไม่สะอาด รวมถึงเวลาทานอาหารกลุ่มนี้โพรงจมูกจะมีอาการบวม มีน้ำมูก คัดจมูกได้ ดังนั้น ควรเลี่ยงอย่างน้อย 1 เดือน
หลังทําจมูกกินอะไรได้บ้าง
- น้ำมะพร้าว
เนื่องจากน้ำมะพร้าวจะช่วยในการลดการบวมของแผลเสริมจมูกได้ดี และ ทำให้แผลหายได้ไวมากยิ่งขึ้น
- ผลไม้
พวกวิตามินในผลไม้จะช่วยในการทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้ดี และ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้แผลหายได้ไว
- โปรตีน
การทานโปรตีนจากไข่จะช่วยเรื่องของการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และ ทำให้แผลหายได้ไวมากยิ่งขึ้น รวมถึงโปรตีนชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะพวกเนื้อสัตว์ ที่มีโปรตีนสูงซึ่งจะช่วยทำให้แผลหายได้ไว แต่ก็ต้องกินในระดับที่เหมาะสมด้วย ไม่เช่นนั้นอาจทำให้มีโอกาสที่แผลจะเป็นคีลอยด์ได้
- น้ำเปล่า
เพราะน้ำจะช่วยในการลดบวม ช่วยสมานแผล อีกทั้งยังทำให้ผิวชุ่มชื้น ซึ่งจะทำให้ผิวไม่แห้งจนเกิดเจ็บบริเวณแผลผ่าตัด ดังนั้นควรจะดื่มน้ำอย่างน้อย 6 – 8แก้ว
- อาหารที่มีธาตุเหล็ก
จะช่วยในการสมานแผล และ ช่วยทำให้แผลหายได้ไวมากยิ่งขึ้น อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เครื่องใน อาหารทะเล
- ไข่
หลายคนเข้าใจผิดว่า กินไข่แล้วทำให้แผลหายช้า แต่จริงๆ แล้วการกินไข่ไม่ได้มีส่วนทำให้เป็นแผลเป็นหรือทำให้แผลหายช้า แถมการกินไข่ยังถือเป็นเรื่องที่ดีเสียอีก เพราะโปรตีนจากไข่จะช่วยสมานแผล สร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ทำให้แผลหายไวมากขึ้น แต่ควรทานแค่วันละ 1 ฟองเท่านั้น
- เนื้อไก่
เสริมจมูกมาแล้วสามารถกินไก่ได้ เพราะช่วยในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต และ ซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอ แต่แนะนำว่าในช่วงแรกที่แผลยังเป็นแผลสด ยังไม่แห้งสนิทดี ให้ทานอย่างพอดี ไม่เช่นนั้นโปรตีนที่ได้รับมาซ่อมแซมแผลก็อาจจะมากเกินไป ไม่ดีต่อร่างกายได้
- สาหร่าย
หลายคนที่ชื่นชอบการกินสาหร่าย ขอบอกเลยว่า สาหร่ายนั้นมีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการมากมาย มีใยอาหาร และ ธาตุเหล็ก ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่น และ ลดอาการบวมช้ำได้ จึงเป็นอาหารที่คุณสามารถรับประทานหลังจากการทำจมูกได้เลย
ถ้าให้พูดถึงการทำศัลยกรรมบนใบหน้าการ เสริมจมูก จัดเป็นศัลยกรรมยอดฮิต อันดับต้น ๆ ที่ติดลมบน เลยก็ว่าได้ค่ะ นั่นก็เพราะจมูกนั้น เป็นศูนย์กลางของใบหน้า ส่งผลให้เมื่อเสริมจมูกออกมาดูดีแล้ว ใบหน้าก็มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยนั่นเอง ทั้งนี้การเสริมจมูกจัดเป็นหัตถาการสำหรับแก้ไขปัญหาโครงปัญหาจมูกที่ได้รับความนิยมอย่างมากใน ปัจจุบัน เนื่องจากโครงสร้างจมูกที่ไม่ได้รูป ไม่มีมิติ สัดส่วนไม่เหมาะสม เมื่อวัดจากหน้าผาก ปลายจมูก และ คาง โดยทั้ง 3 ส่วนนี้ควรสมดุลกันค่ะ การเสริมจมูก นอกจากจะทำเพื่อความสวยงามแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อแก้ไขปัญหาจมูกที่ผิดรูป หรือ ผู้ที่จมูกเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ และ ความบกพร่องที่มีมาแต่กำเนิดได้อีกด้วยค่ะ
การเสริมจมูกคืออะไร
การเสริมจมูก เป็นการเปิดแผลบริเวณขอบรูจมูกสองข้างขึ้นอยู่กับความชำนาญของศัลยแพทย์ เพื่อปรับแต่งโครงสร้างภายในจมูก เช่น ตะไบฮัมพ์ (Rasping) แล้ววางแท่งซิลิโคนเข้าไปตามรอยแผลผ่าตัด ซึ่งสามารถใช้ซิลิโคนอย่างเดียว หรือ ใช้เทคนิคเสริมปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหูร่วมด้วย เทคนิคการเสริมจมูกแบบ Semi-open ศัลยแพทย์จะไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมด จึงเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างจมูกเล็กน้อย หรือมีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว แต่ต้องการความพุ่งโด่งของจมูก
เสริมจมูกด้วยซิลิโคน (NOSE SURGERY)
เมื่อนึกถึงการศัลยกรรม หลายคนคงจะนึกถึงการเสริมจมูกเป็นลำดับต้น ๆ เพราะจมูกคือ จุดกึ่งกลางของใบหน้า (Center Point) ซึ่งโดยปกติแล้วการเสริมจมูกช่วยปรับรูปหน้า ไม่เพียงแค่เสริมให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น แต่ยังเพิ่มโหงวเฮ้ง เสริมสร้างบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการออกแบบจะปรับเข้ากับสัดส่วนของหน้าเพื่อความสวยงามแบบองค์รวม บนพื้นฐานความปลอดภัยของการเสริมจมูกการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน (Close Rhinoplasty) นั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการผ่าตัดโดยนำ ซิลิโคนใส่เข้าไปตามแนวรอยแผลผ่าตัด แผลจะเล็ก ๆ ภายในช่องของจมูก ซิลิโคนจะอยู่เหนือจากกระดูกอ่อน และ ใต้เยื่อหุ้มกระดูกในส่วนบริเวณกระดูกแข็ง เป็นเทคนิคที่ทำได้ง่ายใช้เวลาไม่นาน
การเสริมจมูกเหมาะกับใคร
- ผู้ที่เสริมจมูกใหม่ มีโครงสร้างจมูกเอียงไม่มาก
- เคสเสริมจมูกใหม่ ต้องการเสริมจมูกสันจมูก และ ปลายจมูกด้วยการใช้ซิลิโคนเป็นหลัก
- ผู้ที่เคยแก้จมูก เนื่องจากมีปัญหามาจากซิลิโคน เช่น ปลายบาง หรือ ซิลิโคนทะลุ หรือ ซิลิโคนเบี้ยวเอียง
- ผู้ที่จมูกไม่สั้นมาก หรือ ปลายจมูกไม่ใหญ่มาก หรือ สันกระดูกของจมูกไม่กว้างมากจนเกินไป
ข้อดีของการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน (Closed Rhinoplasty)
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) นั้น เหมาะกับกรณีที่คนไข้มีรูปทรงจมูกของเดิมที่ดีอยู่แล้วระดับหนึ่ง เช่น ฐานจมูกไม่ใหญ่จนเกินไป สันจมูกไม่เรียบมากเกินไป รูปทรงจมูกไม่เบี้ยว ยาว หรือ สั้นเกินไป เพราะหากจมูกมีความยาวที่เหมาะสมก็สามารถเสริมได้ด้วยซิลิโคน แต่มีข้อจำกัดคือไม่เหมาะกับผู้ที่มีจมูกสั้นเกินไป (Short Nose) และ ไม่สามารถปรับแก้โครงสร้างจมูก เนื่องจากเป็นการเปิดแผลเพียงด้านใดด้านหนึ่ง
ข้อแนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมจมูก
ในการเสริมจมูกอย่างแรกที่ควรทำคือต้องได้รับคำปรึกษาจากศัลยแพทย์ เพื่อตรวจดูปริมาณเนื้อบริเวณจมูก โครงสร้างจมูก และ โครงสร้างใบหน้าว่าเป็นอย่างไร และ ในการเข้ารับบริการเสริมจมูกนั้น ควรมีอายุ 18 ปี ขึ้นไปเพราะรูปทรงโครงหน้าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วจึงไม่ส่งผลต่อโครงของจมูกที่ทำไปด้วย แนะนำว่า ทรงจมูกที่สวยดูดี คือทรงจมูกที่เข้ากับใบหน้าของเรา และ ดูเป็นธรรมชาติ
การเสริมจมูกไม่ใช่แค่เสริมจมูกให้ดูโด่งขึ้น แต่มันคือการแก้ไขโครงสร้างใบหน้าด้วย ดังนั้นในการเสริมจมูกควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างจมูก เนื้อจมูก โครงสร้างใบหน้าทุกครั้งก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเช่น รูปทรงจมูกไม่สวยงาม เบี้ยวเอียง ไม่เข้ารูป หรือ ซิลิโคนที่ใส่ไว้ด้านในทะลุออกมา เป็นต้น
ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบ
การผ่าตัดเสริมจมูกใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. เพราะเป็นการผ่าตัดที่มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน และ ใช้เวลานอนพักไม่นาน เมื่อยานอนหลับจะหมดฤทธิ์ หรือ ตัวคนไข้รู้สึกตัวก็สามารถกลับบ้านได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ศัลยแพทย์จะให้ยานอนหลับ และ ฉีดยาชาบริเวณรอบจมูก
- ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณปลายจมูกประมาณ 1 ซ.ม. อาจจะเปิดสองข้าง หรือ ข้างเดียว ขึ้นอยู่กับความชำนาญของศัลยแพทย์
- ปรับแต่งโครงสร้างจมูกด้านใน เช่น ตะไบฮัมพ์ (Rasping) หลังจากนั้นใส่ซิลิโคนเข้าไปตามรอยแผลผ่าตัด
- จัดวางซิลิโคนให้เรียบรอย แล้วเย็บปิดปากแผลบริเวณขอบจมูก
- ปิดพลาสเตอร์ หรือ เฝือกจมูก เพื่อลดการกระทบกระเทือน ป้องกันแผลจมูกโดนน้ำโดยตรง รักษารูปทรงจมูกหลังเสริมทันที และ ช่วยให้แกนจมูกเข้าที่ได้เร็วขึ้น
ระยะเวลาในการผ่าตัด
ปัจจุบันการเสริมจมูกเป็นการผ่าตัดที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาทำไม่นาน ประมาณ 1 ชั่วโมง และ มีความปลอดภัย ซึ่งดูแลด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ เทคนิคที่ทันสมัย ทำให้สามารถผ่าตัดเสริมจมูก ออกมาให้โด่งสวย และ เป็นธรรมชาติรับกับใบหน้าอย่างที่ต้องการได้ ซึ่งก่อนการผ่าตัดเสริมจมูกนั้นจะต้องงดสูบบุหรี่ และ เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และ ระยะการบวมที่นานกว่าปกติ พร้อมกับแจ้งประวัติการแพ้ยา รวมถึงโรคประจำตัว
ข้อควรระวังก่อนเสริมจมูก
- การผ่าตัดจมูกแบบปิดเป็น การผ่าภายในจมูกจุดเด่นคือ จะใช้เวลาน้อย เน้นการเสริมจมูกให้โด่งขึ้นอย่างเดียว
- การผ่าแบบเปิด แพทย์จะสามารถวิเคราะห์ และ แก้ปัญหาของจมูกในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็น การแก้ไขปัญหาสันจมูกโด่งเกินไป
- การเลือกใช้ซิลิโคนแม้จะใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกัน ผลที่ได้หลังการเสริมจมูกจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบที่เลือก ลักษณะเดิมของจมูก และ ความชำนาญของผู้เชี่ยวชาญ
- หากมีเนื้อจมูกน้อย หรือ บาง ไม่แนะนำให้เสริมจมูกด้วยซิลิโคน เนื่องจากอาจจะเกิดการทะลุได้
- ปรึกษาผู้ชำนาญการให้ดีว่าควรตัดปีกจมูกด้วย หรือ ไม่
- การรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเอง หรือ เนื้อเยื่อเทียม จะทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อจมูกโดยตรง ทำให้ปลายจมูกดูเหมือนเนื้อธรรมชาติ
- ทรงจมูกที่นิยมในปัจจุบันมีหลายแบบ ก่อนทำสามารถนำรูปตัวอย่างไปปรึกษากับแพทย์เพื่อวางแผนการผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมจมูก
ควรงดทานยากลุ่มแอสไพริน หรือ ไอบิวโพรเฟน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอาการบวมช้ำ จากเลือดครั่งหลังผ่าตัดได้ค่ะ งดน้ำ งดอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด และ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมที่มีผลต่อการไหลของเลือด เช่น วิตามินต่าง ๆ น้ำมันตับปลาเนื่องจาก จะส่งผลให้เลือดแข็งตัวได้ช้า (หยุดไหลช้า) หลังการผ่าตัดค่ะ
การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรม
- 48 ชม.แรก ประคบเย็นด้วยเจลประคบ โดยวางเป็นแนวนอนบริเวณตา และ สันจมูก
- ให้นอนหมอนสูง ให้ศีรษะสูงใน 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม และ พักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่นอนตะเเคงซ้าย ขวา เพื่อเป็นการป้องกันทรงจมูกไม่ให้เบี้ยว เอียง ได้
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่
- ไม่ทานอาหารรสจัด และ ของหมักดอง
- ดื่มน้ำใบบัวบก และ น้ำมะพร้าว เพื่อช่วยลดอาการบวม ช้ำ
- ล้างหน้าโดยใช้สบู่อ่อน ๆ ในวันที่ 4
- เมื่อมีรอยฟกช้ำใช้น้ำอุ่นประคบ หรือตั้งแต่วันที่ 6 ให้ประคบร้อน
- ไม่ควรทำกิจกรรมใด ๆ เช่น ออกกำลังกาย หรือ ยกของหนักๆ
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
- มาพบแพทย์ตามนัดหลังผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์
ศัลยกรรมเสริมจมูกที่ไหนดี ? ที่ The vogue ดีอย่างไร? ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง ?
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีจมูกที่โด่งโดดเด่นรับเข้ากับใบหน้าของตัวเอง และ ยังเกิดข้อสงสัยมากมายว่าควรเลือกทำจมูกที่ไหนดี เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาน่าพึงพอใจ ตรงตามที่คาดหวังไว้ อย่างไรก็ตามเราไม่ควรปล่อยให้เรื่องของความสวยเป็นเรื่องของความเสี่ยง หรือ โชคชะตา ดังนั้นในหัวข้อนี้จะขอนำข้อมูลการพิจารณาสถาบันความงามมาฝากกันค่ะ
- ความชำนาญของแพทย์
อย่างแรกที่ต้องพิจารณาเลยคือ แพทย์ผู้ทำหัตถการค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผลงานของแพทย์ ซึ่งสามารถดูได้จากรีวิวของผู้เข้ารับบริการจริง, ประสบการณ์ของแพทย์, ใบประกอบวิชาชีพ และ การให้คำปรึกษาของแพทย์ ซึ่งข้อดีของการปรึกษาแพทย์โดยตรง ทำให้เรารู้ขั้นตอนการรักษา รวมถึงความน่าเชื่อถือของแพทย์ด้วย เนื่องจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถอธิบาย ให้คำแนะนำได้อย่างละเอียด และ ถูกต้องนั่นเองค่ะ
- ความน่าเชื่อถือของคลินิกความงาม
ต้องเป็นคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับมาตรฐาน มีความพร้อมของทีมแพทย์ รวมถึงเครื่องมือ และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ทำหัตถการต้องมีความสะอาด และ ปลอดเชื้อด้วยนะคะ
- เครื่องมือสำหรับทำหัตถการ
เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการทำจมูกมีความปลอดภัย และ ไม่เป็นอันตราย จำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับมาตารฐาของคลินิกความงามให้ดี รวมไปถึงเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อด้วยนะคะ
- รีวิวจากลูกค้าจริง ราคา และ โปรโมชั่นต่าง ๆ
การเลือกทำหัตถการกับคลีนิคความงามทั่วไปพราะราคาถูกนั้น อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ หรือ แย่กว่าที่คาดหวังไว้ เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมามากมาย ดังนั้นก่อนเราจะตัดสินใจว่าจะทำจมูกที่ไหนดี ควรขอดูรีวิวจากลูกค้าจริง รวมถึงสอบถามข้อมูล ราคา โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อลดโอกาสการเกิดความเสี่ยงที่อาจตามมาในอนาคตอีกด้วยค่ะ
ที่ The VOGUE Clinic ชลบุรี ของเรานำทีมโดยแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และ มากประสบการณ์ พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อ รวมถึงเทคนิคพิเศษในการทำจมูกที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น อัดแน่นไปด้วยรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงมากมาย คนไข้สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับความสวยควบคู่ไปกับความปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ
ข้อดีของการแสริมจมูกที่ เดอะโว้ก คลินิก
- ซิลิโคนเหลาเคสต่อเคสเพื่อให้พอดีกับสัดส่วนของจมูกแต่ละบุคคล
- ออกแบบเพื่อให้รับกับสัดส่วนของใบหน้า
- วางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูกเพื่อลดปัญหาซิลิโคนเบี้ยว เอียง และ การเคลื่อนตัวของซิลิโคน
- พักฟื้นไว บวม ช้ำน้อย ด้วยเทคนิกพิเศษ ลดการบวมช้ำหลังการผ่าตัดของเดอโว้ก คลินิก