เมโสเเฟต กำจัดเหนียง

เมโสแฟต เป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ ซึ่งอยากจะบอกว่าใครที่มีปัญหาที่ต้องการอยากกำจัดไขมันออกไปเราขอเเนะนำการทำ เมโสเเฟต (Meso Fat) ซึ่งก็คือ การสลายไขมันส่วนเกินนั่นเองค่ะ โดยการฉีดยาสลายไขมันแทนการดูดไขมัน เและป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เห็นผลเร็ว การฉีดส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีรอยฟกช้ำ ทำการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เท่านั้น ซึ่งตัวยามีคุณสมบัติสลายไขมันที่สะสมมาเป็นเวลานาน ในการฉีดเมโสเเฟตจะขึ้นอยู่กับจุดที่เราฉีด ทำให้ระยะเวลานั้นต่างกันออกไป อาจจะอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นไขมัน

ตำแหน่งฉีดแฟตที่สาวๆ นิยมกันมากที่สุดคือ

ฉีดลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก ลดคางหรือเหนียง แก้ไขจมูกบานให้เล็กลง หรือแก้ไขหนังตาบนที่หย่อนคล้อย นอกจากนี้ยังมีส่วนอื่นๆ เช่น ลดต้นแขน ต้นขา น่อง ลดพุงหน้าท้อง

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต

• พบแพทย์เพื่อทำการปรึกษาก่อนการฉีด แจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัว
• งดยาในกลุ่มของ แอสไพริน, NSAIDs, Dipyridamol ก่อนเข้ารับการฉีดเมโส 48 ชั่วโมง

ขั้นตอนการฉีด เมโสเเฟต (Meso Fat)

แพทย์จะทำการผสมยาและฉีดในบริเวณที่ต้องการจะสลายไขมัน ส่วนปริมาณและความลึกที้ฉีดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล การฉีดแต่ละจุดจะฉีดห่างกันอย่างน้อย 1.5 – 2 ซม. และฉีดซ้ำทุกๆ 5 –  7 วัน หลังจากฉีดแล้วไขมันจะเริ่มหดตัวลดลง 15 – 20 % ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และไขมันจะสลายตัว 50% ขึ้นไปเมื่อทำครบคอร์สแล้ว

ข้อควรปฏิบัติหลังทำเมโสแฟต

• ควรดื่มน้ำอย่างน้ำ 2 ลิตร เพราะช่วยขับไขมันส่วนเกินที่สลายให้ออกจากร่างกายได้มากขึ้น
•  อาจจะพบอาการบวมช้ำ หรืออาการเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย ขณะที่ทำและหลังทำอาการจะหายไปใน 1-3 วัน
• งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
• ทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น พืชผัก ผลไม้
• ไม่รับประทานอารที่มีไขมัน จำพวก ของทอด แป้ง น้ำตาล ชา กาแฟ เป็นต้น
• ควรออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ เดินเร็ว เต้นเอโรบิค เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ และรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมันใหม่

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงจากเมโสแฟต ?

• เกิดอาการแพ้บริเวณที่ฉีดสารเข้าผิวหนัง
• เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง
• ผิวหนังบริเวณที่ฉีดสารมีสีเปลี่ยนแปลงไป
• เกิดรอยฟกช้ำบริเวณที่ฉีดสาร
• เกิดแผล หรือแผลเป็นบริเวณที่ฉีดสารเข้าไป
• โรคชั้นไขมันอักเสบ (Panniculitis)