รักษาหลุมสิว(Atrophic Scars) อย่างไรให้หน้าใสเรียบเนียน
หลุมสิวเป็นปัญหาที่ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนและเป็นที่กังวลของใครหลายๆ คน
การรักษาหลุมสิวเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจในปัจจุบัน แต่ทำไมไม่ลองดูวิธีป้องกันการเกิดก่อนที่จะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต และถ้าหากเกิดขึ้นจะรักษาอย่างไร
รักษาหลุมสิว (Atrophic Scars)
หลุมสิว (Atrophic Scars) คืออะไร
หลุมสิว คือ รอยแผลที่เกิดขึ้นสิวที่เคยอักเสบบนใบหน้าของเรา เพราะระบบการฟื้นฟูของผิวหนังไม่สมบูรณ์ เลยทำให้หลุมสิวเกิดขึ้นบนใบหน้าของเรา
ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากสิวที่อักเสบรุนแรงหรือการอักเสบที่ลึกลงไปในชั้นผิวหนัง การฟื้นฟูผิวหนังที่ไม่สมบูรณ์นี้อาจทำให้เกิดการลดลงของคอลลาเจนและเนื้อเยื่อรอบๆ หรือการหดตัวของเนื้อเยื่อ
สร้างรอยแผลหรือหลุมที่ลึกลงไปในผิวหนัง เป็นผลให้ผิวหนังดูไม่เรียบเนียนและมีรูปร่างไม่สมดุล หลุมสิวมักจะเป็นปัญหาความสำคัญในการดูแลผิวหน้าและอาจทำให้รู้สึกไม่พอใจในลักษณะของผิวหน้าได้ค่ะ
หลุมสิว (Atrophic Scars) เกิดจากอะไร
เกิดจากกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อผิวหนังที่ไม่สมบูรณ์ หลังจากสิวขึ้น สิวจะเกิดภาวะการอักเสบของผิวหนัง โดยที่เซลล์ผิวหนังและคอลลาเจนที่สร้างขึ้นในกระบวนการซ่อมแซมไม่เพียงพอต่อความเสียหาย ทำให้เกิดการหดตัวของเนื้อเยื่อและคอลลาเจนในบริเวณนั้นๆ รอยแผลเป็นได้ถึง 95% ของผู้ป่วยที่เป็นสิว
รอยแผลเป็นจากสิวที่รุนแรง หรือมีหลุมสิว พบได้ประมาณ 22% ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาการอักเสบรุนแรงที่เกิดขึ้นในชั้นหนังแท้ มีการตอบสนองกับเชื้อแบคทีเรีย
ทำให้เกิดรอยแผลเป็นหลุมสิวแบบถาวร เพราะมีการทำร้ายผิวโดยทำให้คอลลาเจนและเนื้อเยื่อรอบๆ ถูกทำลายลงด้วย โดยเฉพาะสิวหัวช้าง สิวเม็ดใหญ่ ก็จะทิ้งแผลเป็นขนาดใหญ่ ที่ลงลึกถึงชั้นผิวหนังชั้นใน เกิดเป็นหลุมลึกและพังผืดตามมา
หลุมสิวมีกี่ประเภท
หลุมสิวสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภทดังนี้
| หลุมสิวแบบ Ice Pick Scars |
มีลักษณะรอยแผลลึก ปากแผลแคบ มีความลึกถึงเนื้อเยื่อชั้นใต้ผิวหนัง จะลึกไม่เกิน 2 มิลลิเมตร มักเกิดขึ้นบริเวณแก้ม รักษายากที่สุดในจำพวกประเภทหลุมสิวทั้งหมด |
| หลุมสิวแบบ Boxcar Scar | มีลักษณะเหมือนกล่อง รูปทรงวงกลม รอยขอบชัดเจน กว้าง 3-4 มิลลิเมตร |
| หลุมสิวแบบ Rolling Scar | มีลักษณะแผลกว้างลึกลงชั้นใต้ผิว โค้ง มีขนาดกว้าง 4-5 มิลลิเมตร |
วิธีรักษาหลุมสิวเบื้องต้น ลดโอกาสการเกิดสิว
การดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสมและระมัดระวังสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดหลุมสิวได้มาก หลายวิธีสามารถนำมาใช้เพื่อป้องกันหรือลดโอกาสในการเกิดหลุมสิว เช่น การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับประเภทผิว ป้องกันแสงแดดอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการทำลายคอลลาเจนในผิว การดื่มน้ำเพียงพอ เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของผิวและส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูผิว
โดยการรักษาสุขภาพผิวอย่างเหมาะสม เช่น การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ การป้องกันการเกิดหลุมสิวเริ่มต้นด้วยการดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้องและเหมาะสม
หลุมสิวลึกหนา เลเซอร์หลุมสิวแก้ไขได้
การเลเซอร์ถือเป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุด ในขณะที่สามารถรักษาหลุมสิวได้ ยังสามารถช่วยทำให้หน้าเนียนใสมากขึ้น จากแผลเป็นของสิวอื่นๆ บนใบหน้า
ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เครื่องมือที่ทันสมัยในการเลเซอร์ มีความปลอดภัยและเห็นผลอย่างรวดเร็ว
รักษาหลุมสิวที่ The Vogue Clinic
เพราะหลุมสิวเป็นภาวะที่รักษายากและใช้เวลานาน การใช้เครื่องมือเลเซอร์ที่ทันสมัยจึงทำให้ลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดหลุมสิวได้ The Vogue Clinic เรามีเครื่องมือที่ทันสมัยและปลอดภัย ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปลอดภัย ไว้ใจได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
