ฉีดโบท็อกบ่อย ใบหน้าดื้อโบท็อกจริงไหม?

ฉีดโบท็อกบ่อย ใบหน้าดื้อโบท็อกจริงไหม?

04 มี.ค. 2567   ผู้เข้าชม 5

ภาวะดื้อโบท็อก คืออะไร

ภาวะดื้อโบเป็นภาวะที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) เพื่อทำลายยาโบท็อกซ์ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นสารแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ซึ่งสามารถเกิดขึ้นกับทุกคนที่ฉีดโบท็อกซ์

ภาวะนี้เป็นผลมาจากการตอบสนองของร่างกายที่ลดลงหรือไม่มีเลยต่อการฉีดโบท็อกซ์ ผลที่เกิดขึ้นคือ ยาโบท็อกซ์ถูกทำลายและไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


การเผชิญกับภาวะดื้อโบท็อกซ์อาจทำให้ไม่เห็นผลลดริ้วรอย ลดกราม หรือยกกระชับหน้าได้ตามที่คาดหวัง ซึ่งอาจต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยาโบท็อกซ์มากขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายอาจไม่เห็นผลตามที่คาดหวัง ดังนั้น การปรึกษาหมอหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการทำโปรแกรมโบท็อกซ์เป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำให้แน่ใจก่อนที่จะตัดสินใจนี้

ฉีดโบท็อกไม่เห็นผล หน้าไม่เล็กลง เพราะอะไร?

เมื่อร่างกายดื้อโบท็อก

ภาวะดื้อโบท็อกเกิดจากปฏิกิริยาที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต้านต่อสารโบท็อกซ์ ทำให้การฉีดโบท็อกซ์ไม่มีผลหรือมีผลลดลงจากเดิมที่เคยมี ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในบางรายที่ได้รับการฉีดสารโบท็อกซ์จากหลายๆ ที่ การดื้อโบท็อกซ์เป็นสิ่งที่เริ่มจากการใช้โบท็อกซ์ซ้ำๆ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการดื้อขึ้นมา

หน้าเหี่ยวย่น ดื้อโบท็อก

เมื่อร่างกายดื้อโบท็อกแล้ว การฉีดโบท็อกซ์อีกครั้งจึงต้องรอให้เวลาเป็นเวลานานๆ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาปรับตัว ซึ่งมักจะต้องรอเป็นระยะเวลาประมาณ 3-4 ปี ก่อนที่จะพิจารณาที่จะฉีดโบท็อกซ์อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามยังมีทางเลือกในการจัดการกับผู้ที่มีภาวะดื้อโบท็อกในระยะที่ยังไม่รุนแรง คือ การใช้สารโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนน้อยลง โดยการลดปริมาณโปรตีนที่ผสมอยู่ในสารโบท็อกซ์

เพื่อลดโอกาสให้ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อต้านน้อยลง แต่ก็ต้องให้ทิ้งระยะเวลาฉีดให้นานประมาณ 4-6 เดือน จึงจะสามารถฉีดใหม่ได้อีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดื้อโบท็อกเพิ่มขึ้นในร่างกาย


โดยปกติ ฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล

การฉีดโบท็อกซ์ไม่สามารถเห็นผลได้ทันที เนื่องจากโบท็อกซ์ต้องไปกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ทำงานร่วมกันเพื่อลดการกระตุ้นกล้ามเนื้อ

ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาในการทำงานของกล้ามเนื้อ ระยะเวลาในการเห็นผลของโบท็อกซ์ ยังขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้นของโบท็อกซ์ที่ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายเราด้วย

เป้าหมายของการใช้โบท็อกซ์ในการลดริ้วรอยหรือกรามไม่ใช่การทำให้ปรับเปลี่ยนแปลงทันที แต่เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของร่างกายที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ ดังนั้น ควรรอการเห็นผลของโบท็อกซ์อย่างน้อย 14 วันหลังการฉีดเพื่อให้มั่นใจในผลลัพธ์ที่ได้ค่ะ

ทำไมต้องฉีดโบท็อก

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นสารที่สกัดมาจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชื่อ Clostridium Botulinum โบท็อกซ์เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ซึ่งมีความสามารถในการคลายกล้ามเนื้อในบริเวณที่ถูกฉีด โดยทำให้กล้ามเนื้อคว่ำลงและริ้วรอยบริเวณนั้นลดลงเช่นกัน โบท็อกจึงทำให้ใบหน้าดูเล็กและอ่อนเยาว์ลงอีกด้วย

การฉีดโบท็อกซ์เป็นหนึ่งในหัตถการที่นิยมใช้ในการปรับรูปหน้าเรียว ลดริ้วรอย แก้ปัญหาผิวหน้า ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดโบท็อกซ์มักเห็นได้ชัดเจนและรวดเร็ว ภายใน 14 วัน ถึงแม้ว่าผลลัพธ์อาจจะอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็เห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในระยะเวลาสั้น ซึ่งทำให้หลายคนสนใจและมีแนวโน้มในการปรับรูปหน้าเพื่อเพิ่มความเยาว์วัยด้วยการฉีดโบท็อกซ์มากขึ้น

ควรฉีดโบท็อกอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ โบท็อกเห็นผลจริง

  • เลือกฉีดกับคลินิกที่ไว้ใจได้ มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สะอาด มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • เลือกฉีดยาที่มีอย. ในปริมาณที่เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดเข้าใกล้บริเวณใบหน้า การทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เพราะความร้อนคือตัวทำให้โบท็อกย่อยสลายไวขึ้น

สรุปหากฉีดบ่อยจะดื้อโบท็อก จริงหรือไม่

ภาวะดื้อโบท็อกอาจทำให้ไม่เห็นผลลดริ้วรอย ลดกราม หรือยกกระชับหน้าได้ตามที่คาดหวังจริง แต่สามารถแก้ไขด้วยการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำ และหยุดฉีด 4-6 เดือน อาการก็จะกลับมาเป็นปกติ

การป้องกันไม่ให้หน้าเกิดภาวะดื้อโบท็อกคือการระมัดระวังในการฉีดโบท็อกให้เหมาะสม โดยควรพบแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์เพื่อให้คำแนะนำและสาระสำคัญก่อนทำการฉีด นอกจากนี้ ควรเลือกใช้สารโบท็อกซ์ที่มีคุณภาพสูงและมีโปรตีนน้อยเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะดื้อโบท็อก

คำเตือน !!

ไม่ควรฉีดโบท็อกกับหมอกระเป๋า หรือบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่แพทย์ เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อภาวะดื้อโบท็อกและมีความเสี่ยงต่อความเสียหายหรืออันตรายต่อร่างกายได้

ควรเข้าใจถึงความสำคัญของการใช้โบท็อกซ์ให้ถูกต้องและปลอดภัยจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น การป้องกันและรักษาโบท็อกซ์ดื้อนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญและควรให้ความสำคัญอย่างมาก


บทความที่เกี่ยวข้อง