ย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก

หมดกังวลเรื่องเบ้าตาลึก เบ้าตาโบ๋ ด้วยศัลยกรรมย้ายไขมันตา

ปัญหารอบดวงตา เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง เพราะใบหน้าเป็นจุดแรกของการสร้างความสัมพันธ์ แน่นอนปัญหาเบ้าตาลึกนั้นก็เป็นเรื่องที่สามารถพบเห็นได้ง่าย แถมยังส่งผลกระทบโดยตรงในด้านของความสวยความอีกด้วย อย่างไรก็ตามในบทความนี้จะขอพาไปรู้จักแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการย้ายไขมันกันนะคะ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดนั่นเองค่ะ

เบ้าตาลึก คืออะไร 

เบ้าตาลึก คือ เบ้าตาที่มีปริมาณไขมันน้อยแต่กำเนิดหรือไขมันพร่องเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เกิดร่องลึกที่อยู่ระหว่างดวงตากับโครงคิ้ว มองเห็นขอบกระดูกเบ้าตาชัดเจน ดูไม่สวยงาม ส่งผลให้ตาดูลึก ตาโหล ดูเหนื่อยล้า ดูโทรม และดูมีอายุนั่นเองค่ะ สำหรับในกรณีที่ร่องลึกอยู่ใกล้ชั้นตามาก จะทำให้ดูเหมือนมีตาสามชั้น ภาวะเบ้าตาลึกสามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย บางคนที่ทำตาสองชั้น โดยไม่มีการรักษาภาวะเบ้าตาลึกร่วมด้วย หลังทำมักเกิดอาการชั้นตาลึก หรือชั้นตาสูง ทำให้ชั้นตาดูลึกมากและสูงเกินไป ดูไม่เป็นธรรมชาตินั่นเอง

เบ้าตาลึกมีลักษณะอย่างไรบ้าง

• มีร่องลึกตรงเปลือกตา บริเวณเหนือชั้นตาขึ้นไป
• เห็นขอบกระดูกเบ้าตา บริเวณใต้คิ้วชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูแข็งทื่อ ดูดุ ไม่อ่อนหวาน
• ตาลึกโหล ตาดูอิดโรย ดูโทรม ทำให้ดูแก่กว่าวัย
• ตาสามชั้น ทำให้ชั้นตาดูลึก เปลือกตาดูเป็นริ้วๆ ไม่สวยงาม
• ตาปรือ อาจมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย
• ทำตาสองชั้นแล้ว ชั้นตาสูง ชั้นตาหนา ดูไม่เป็นธรรมชาติ

สาเหตุใดบ้างที่ทำให้เกิดปัญหาเบ้าตาลึก

• พันธุกรรม
  ภาวะเบ้าตาลึกแต่กำเนิด เกิดจากโครงสร้างกะโหลกเบ้าตาที่มีลักษณะเบ้าตาลึกที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น สังเกตได้ง่ายๆ จากคนในครอบครัว เช่น พ่อแม่ หรือปู่ย่าตายาย จะมีภาวะเบ้าตาลึก ทำให้ลูกหลานมีโอกาสมีภาวะเบ้าตาลึกเหมือนคนในครอบครัว อาจเป็นตั้งแต่เกิด หรืออาจเริ่มมีภาวะเบ้าตาลึกตอนโต และเบ้าตาลึกมากขึ้นเมื่ออายุที่เพิ่มขึ้นก็เป็นได้

• อายุที่มากขึ้น
  เบ้าตาลึก จากอายุที่มากขึ้น เกิดจากการฝ่อของไขมันเปลือกตา และการยุบตัวของกระดูก ทำให้เกิดร่องลึกบนผิว โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบางอย่างผิวรอบดวงตา เบ้าตาลึกลงจากไขมันที่ลดลงตามวัย ทำให้เกิดร่องลึกบนเปลือกตา เห็นขอบเบ้าตาชัดเจน ทำให้ดูตาลึก หน้าตาดูเหนื่อยล้าและอาจทำให้ดูแก่ก่อนวัยได้นะคะ

• น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
  น้ำหนักตัวลดอย่างกะทันหัน จากการลดน้ำหนัก หรือจากอาการเจ็บป่วย ทำให้ร่างกายสูญเสียปริมาณไขมันอย่างรวดเร็ว ไขมันเบ้าตาที่ลดลง ส่งผลให้ผิวบริเวณเบ้าตายุบตัวลงจนเกิดภาวะเบ้าตาลึกค่ะ

• กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
  สำหรับคนที่มีลักษณะเบ้าตาลึก หากมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย จะทำให้ดวงตาปรือ ชั้นตาซ้อนกันหลายชั้น ตาลึกมากจนเห็นขอบกระดูกเบ้าตาได้ชัด ทำให้ใบหน้าดูมีอายุและดูอิดโรย สามารถทำตาสองชั้น ร่วมกับการดึงกล้ามเนื้อตา และเติมไขมัน ช่วยแก้ไขเบ้าตาลึกและตาปรือได้

• ทำตาสองชั้นแล้วตาลึก
  ทำตาสองชั้นจากที่อื่นแล้ว ชั้นตาดูสูง และลึกมาก ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ อาจเกิดจากคนที่มีภาวะเบ้าตาลึก เมื่อทำตาสองชั้น โดยไม่มีการแก้ไขเบ้าตาลึก ทำให้ได้ชั้นตาที่ดูลึก ชั้นตาสูงเกินจนดูไม่ธรรมชาติ สามารถแก้ตาสองชั้น ร่วมกับการเติมไขมันตา หรือในบางเคสอาจดึงกล้ามเนื้อตาร่วมด้วย เพื่อให้ดวงตาดูสดใส ไม่ปรือ ตาไม่ลึก

ภาวะเบ้าตาลึกเป็นอันตรายไหม

ภาวะเบ้าตาลึก แม้ไม่ใช่ภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิตนะคะ แต่ส่งผลกระทบต่อความสวยงามและสุขภาพดวงตา ทำให้ตาดูลึก ตาโหล ดูเหนื่อยล้า หน้าตาดูโทรม อิดโรย ตาไม่สดใส ดูมีอายุกว่าคนวัยเดียวกัน ความลึกของดวงตา ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูหมองคล้ำลง ส่งผลให้ดูโหงวเฮ้งไม่ดี อาจทำให้แต่งหน้ายาก และยังส่งผลต่อบุคลิกภาพ ทำให้ขาดความมั่นใจ และอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตในระยะยาวอีกด้วยค่ะ

เบ้าตาลึกสามารถป้องกันอย่างไรได้บ้าง

• พักผ่อนให้เพียงพอ
  การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออดนอนเป็นประจำ จะยิ่งทำให้ผิวรอบดวงตาเสื่อมสภาพเร็วขึ้นค่ะ ซึ่งส่งผลให้เปลือกตาหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยรอบดวงตา อาจส่งผลให้ร่องเบ้าตาดูลึกขึ้น
• ทาครีมบำรุงผิวรอบดวงตา
  การดูแลสุขภาพเบ้าตาง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ทุกวัน อย่างเช่นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับบริเวณรอบดวงตา ด้วยการทาครีมบำรุงผิวรอบดวงตาอบ่างสม่ำเสมอจะช่วยลดริ้วรอย ลดความหมองคล้ำ ช่วยกระชับผิวรอบดวงตาให้เต่งตึง ลดความหย่อนคล้อย ไม่ให้ผิวบริเวณเปลือกตายุบตัวลง ป้องกันภาวะเบ้าตาลึกได้ด้วยนะคะ
• หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักอย่างหักโหม
  การลดน้ำหนักอย่างหักโหม นอกจากจะทำให้เกิดการปวดเมื่อยตามร่างกายแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นอีกด้วย ไม่ว่าจะอารมณ์แปรปรวน นอนหลับยากขึ้น ร่างกายขาดน้ำจนอาจถึงขั้นหมดสติ ที่สำคัญยังทำให้ร่างกายสูญเสียไขมันอย่างกะทันหัน เมื่อไขมันเบ้าตาลดน้อยลง จะทำให้เกิดภาวะเบ้าตาลึกนั่นเองค่ะ  

เบ้าตาลึกแก้อย่างไรได้บ้าง

• เบ้าตาลึกที่เกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
  ศัลยแพทย์จะใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เมื่อคนไข้สามารถลืมตา เบิกตากว้างได้ตามปกติแล้ว กล้ามเนื้อรอบดวงตาจะช่วยดันให้ไขมันบริเวณรอบดวงตาออกมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จึงเป็นวิธีการที่ช่วยรักษาอาการเบ้าตาลึกได้ค่ะ

• เบ้าตาลึกในคนที่มีอายุมากหรือเบ้าตาลึกไม่มาก
  สำหรับใครที่พออายุเริ่มมากขึ้น ปริมาณไขมันรอบดวงตาก็ลดน้อยลงไปด้วย หรือคนที่มีปริมาณไขมันรอบดวงตาน้อย วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น ก็นับว่าเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดีค่ะ

• เทคนิคการย้ายไขมันเพื่อแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึก
  อย่างที่เราทราบกันดีว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเบ้าตาลึกนั้นคืออะไร ดังนั้นสำหรับใครที่มีปริมาณไขมันบริเวณรอบดวงตาน้อยมาก หรือสูญเสียไขมันรอบดวงตาไปเยอะ การผ่าตัดย้ายไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ไขมันถุงใต้ตา ไขมันเปลือกตาล่าง ไขมันหน้าท้อง หรือไขมันต้นแขน ของตัวเองก็สามารถนำมาเติมเต็มบริเวณเบ้าตาได้ค่ะ เพื่อไม่ให้เบ้าตาดูลึก โบ๋ จนไม่สวยนั่นเองค่ะ

• ฟิลเลอร์
  สำหรับใครที่ไม่อยากศัลยกรรม แต่มีปัญหาเบ้าตาลึก การเติมฟิลเลอร์ก็สามารถช่วยได้ค่ะ ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า ฟิลเลอร์ หรือ HA นั้นสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกายของเรา ดังนั้นหาดต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานจำเป็นต้องมาเติมอีกเรื่อย ๆ นะคะ อย่างไรก็ตามหากเลือกเข้ารับบริการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะได้รับความปลอดภัยสูง แถมยังได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจอีกด้วยค่ะ

จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ชัดว่าการแก้ปัญหาเบ้าตาลึกนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธีมาก ๆ อย่างไรก็ตามวิธีการรักษาปัญหาเบ้าตาลึกที่ได้ผลดีที่สุดในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นการย้ายไขมัน ทั้งนี้แนะนำให้ปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับบริการทุกครั้งเพื่อรับรู้แนวทางการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและถูกต้องนั่นเองค่ะ

ขั้นตอนและเทคนิคการย้ายไขมันตา

• แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาขอคนไข้โดยละเอียด จากนั้นจะเริ่มวางแผนการรักษา
• เริ่มระงับความเจ็บปวดด้วยการฉีดยาชาบริเวณจุดที่ต้องลงแผล
• จากนั้นเริ่มเปิดแผลบริเวณเปลือกตาของคนไข้
• ทำการจัดเรียงไขมันใหม่ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
• เย็บปิดแผลด้วยความปราณีต

ข้อควรปฏิบัติก่อนการผ่าตัด

• ก่อนเข้ารับการผ่าตัดควรแจ้งประวัติการรักษา การแพ้ยา รวมถึงยาที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบโดยละเอียดนะคะ
• หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อน
• งดอาหารเสริม วิตามิน C,E น้ำมันตับปลา สมุนไพร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 1-2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
• นอนหลับให้เพียงพอ งดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด
• งดแต่งหน้าในวันผ่าตัดและงดใส่เครื่องประดับทุกชนิด
• เตรียมแว่นตากันแดดมาเอง
• หลังผ่าตัดไม่ควรขับขี่ยานพาหนะเองเพราะการมองเห็นจะไม่100%ต้องมีญาติมาด้วย เพื่อความปลอดภัย
• เตรียมวันหยุด ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้พักหลังผ่าตัด อย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อลดการใช้สายตา

ข้อควรปฏิบัติหลังการผ่าตัด

• หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก แนะนำให้วางเจลประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา เพื่อให้หายเร็วขึ้น แต่ระมัดระวังอย่าให้แผลเปียกนะคะ หากแผลเปียกควรเช็ดทำความสะอาดทันทีค่ะ
• นอนศีรษะสูงกว่าปกติใน1-2 คืนแรกของการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
• ทำความสะอาดแผลวันละ 1-2ครั้ง โดยใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล
• ป้ายยาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้งที่แผลบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
• ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด จะทำให้แผลติดเชื้อได้
• หลังวันที่ 3 ไปแล้ว หากมีรอยเขียวช้ำ ให้ประคบอุ่น (ระวังไม่ให้ร้อนเกินไป) ช่วยให้หายเร็วขึ้น สามารถสลับกับประคบเย็นได้เพื่อช่วยให้ลดบวมเร็วขึ้น ถ้าไม่มีรอยเขียวช้ำให้ประคบเย็นต่อไป
• ยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามิน สามารถกินได้หลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง แอลกอฮอล์ทุกชนิด ไข่ อาหารทะเล 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูน
• กินยาฆ่าเชื้อจนหมดที่แพทย์สั่ง และกินยาแก้ปวดกินเฉพาะเวลามีอาการ
• เวลาออกไปข้างนอกแนะนำให้ใส่แว่นตากันลมฝุ่น ทุกครั้งเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้โดนแผลของเราค่ะ

รีวิวจากผู้ใช้บริการจริง