ไขความลับ เพิ่มความโหนกนูนให้หน้าผากด้วยวิธีไหนได้บ้าง

ไขความลับ เพิ่มความโหนกนูนให้หน้าผากด้วยวิธีไหนได้บ้าง

08 ธ.ค. 2566   ผู้เข้าชม 114

การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มความนูนให้หน้าผาก นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการหน้าเด็กลดอายุ เพิ่มมิติให้ใบหน้าโดยไม่พึ่งมีดหมอค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยให้หน้าผากเป็นทรง เข้ารูปกับใบหน้ามากขึ้นอีกด้วย ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับเทคนิคการเพิ่มความโหนกนูนให้หน้าผากด้วยวิธีต่าง ๆ กันค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS การผ่าตัดเสริมหน้าผาก

  • การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน
    มีข้อดีของการเสริมหน้าผากลักษณะนี้ก็คืออยู่ได้ถาวร แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากหลังทำหัตถการพบอาการบวมช้ำค่อนข้างมาก จำเป็นต้องพักฟื้นนานเป็นเดือน แถมมีรอยแผลเป็นบริเวณไรผมค่อนข้างยาวตามขนาดของซิลิโคน ในเรื่องของการดูแลรักษาแผลก็สามารถทำได้ค่อนข้างยากอีกด้วย หากเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนมาแล้วก็ไม่สามารถปรับลดเพิ่มความโหนกนูนได้ วิธีที่แก้ไขได้จำเป็นต้องผ่าตัดแก้ไขปรับแต่งอีกรอบเท่านั้นค่ะ
  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
    มีข้อดีของการเลือกใช้สารนเติมเต็มบริเวณหน้าผากก็คือ รู้สึกเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วจะไม่เกิน 7-14 วัน สามารถปรับเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามต้องการ และ ความชอบอีกด้วย หากใช้ฟิลเลอร์แท้ก็จะสามารถคงสภาพผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1-2 ปีเลยค่ะ และ สามารถทยอยเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ อีกด้วยนะ โดยคนไข้บางคนอาจจะเริ่มจากการเติมเพียง 1-2 cc ในครั้งแรก และ ค่อย ๆ ทยอยฉีดเพิ่มได้ และ หากไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายออกบางส่วนเพื่อปรับแต่งได้ตามความต้องการ สะดวก และ ง่ายกว่าการผ่าตัดมากเลยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก VS การเติมไขมันหน้าผาก

  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
    • เป็นหัตถการที่่ใช้สารเติมเต็ม HA ซึ่งมีความปลอดภัยสูง
    • สามารถเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด
    • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
    • อาการบวมหลังฉีดน้อยมาก และ มักจะดีขึ้นในช่วง 2-3 วัน
    • เห็นผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์
    • ฟิลเลอร์จะสลายไปตามระยะเวลาของแต่ละยี่ห้อ
  • การเติมไขมันหน้าผาก
    • ต้องใช้ไขมันของคนไข้เองที่ดูดจากบริเวณอื่นมาเติมบริเวณหน้าผาก
    • ลดความเสี่ยงในการแพ้ เนื่องจากใช้ไขมันตัวเอง
    • มีกระบวนการดูดไขมัน และ ต้องนำมาปั่นแยกเป็นของเหลว
    • มีแผลจากตำแหน่งที่ดูดไขมันมาใช้
    • มักไม่ได้ผลในการฉีดครั้งแรก ต้องฉีดซ้ำหลายครั้ง
    • มีโอกาสเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเสมอกัน

ฟิลเลอร์ คืออะไร 

สำหรับใครที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก แต่ยังไม่ทราบข้อมูลที่ถูกต้องเลยว่าฟิลเลอร์นั้นคืออะไร ในหัวข้อนี้จะขออธิบายเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ เพื่อให้คนไข้ได้รู้จักสารเติมเต็มชนิดนี้มากขึ้น รวมถึงนำเอาไปประกอบการพิจารณาว่าจะฉีดฟิลเลอร์ดีไหม วันนี้จะขอพาไปทำความรู้จักในแบบฉบับที่มือใหม่ก็สามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนกันเลยค่ะ จะเป็นอย่างไรไปดูพร้อมกันเลย

ฟิลเลอร์ ก็คือสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า HA นั่นเอง ต้องบอกก่อนเลยว่าทางการแพทย์นั้นได้ผลิตขึ้นมาเพื่อเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติค่ะ เพื่อใช้ทดแทนโครงสร้างผิว คอลลาเจนรวมถึงไฮยาลูรอน ที่ร่างกายของเราจะสูญเสียไปเมื่ออายุเริ่มมากขึ้นนั่นเอง 

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังของเราเกิดการเหี่ยวย่นนั้นก็เพราะว่า โดยปกติแล้วผิวหนังของเรานั้นมีใยคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผิวของเราแข็งแรง ยืดหยุ่น และ เต่งตึง แต่เมื่อเส้นใยเหล่านี้ลดลงก็จะทำให้ผิวเริ่มบาง และ เกิดปัญหาดังกล่าวได้ค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี อยู่ได้นานแค่ไหน

อย่างที่เราทราบกันดีว่าฟิลเลอร์นั้นมีหลากหลายยี่ห้อเลย แต่ยี่ห้อไหนล่ะที่ดีที่สุด ตรงนี้ต้องขออธิบายก่อนเลยนะคะว่า ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดค่ะ เพราะไม่ม่ ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหน รุ่นไหน สามารถฉีดได้ทุกจุด ทุกสภาพผิว อย่างแน่นอน ก็อย่างที่เราทราบกันดีค่ะ เมื่อเราเข้าไปที่สถาบันความงามจะพบว่าแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาของคนไข้แต่ละเคส และ เป็นผู้เลือกใช้ยี่ห้อ รุ่น ของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมค่ะ ซึ่งในปัจจุบันต้องบอกก่อนเลยว่าทางการแพทย์ได้มีการผลิตฟิลเลอร์แท้ให้เราเลือกใช้หลายยี่ห้อมาก ๆ แถมแต่ละยี่ห้อก็จะมีรุ่นย่อยลงไปอีกนะคะ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นบริเวณที่ฉีด ความคงตัว เนื้อของตัวยา และ ระยะเวลาอีกด้วยค่ะ

หลัก ๆ แล้วฟิลเลอร์ก็จะมาจาก 4 ประเทศที่ได้รับความนิยมด้วยกัน นั่นก็คือ สวีเดน, อเมริกา, สวิตเซอร์แลนด์ และ อิตาลี ค่ะ ซึ่งแต่ละประเทศนั้นมีระยะเวลาของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

อันดับแรกเป็นฟิลเลอร์ Juvederm จาก อเมริกา

  • Juvederm Ultra Plus อยู่ได้ 12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volbella อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volift อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน

ฟิลเลอร์ Belotero จาก สวิตเซอร์แลนด์

  • Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Volume อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Revive อยู่ได้นาน 6-9 เดือน

ฟิลเลอร์ไฮยาเบล (Hyabell Filler) เป็นฟิลเลอร์สัญชาติเยอรมัน

  • Hyabell Lips อยู่ได้นาน 9 เดือน
  • Hyabell Basic อยู่ได้นาน 9 เดือน
  • Hyabell Deep อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Hyabell Ultra อยู่ได้นาน 15 เดือน

ฟิลเลอร์ Restylane จาก สวีเดน 

  • Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Vital Light อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Restylane Vital อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Volyme อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Refyne อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Classic อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Kysse อยู่ได้นาน 12 เดือน

สุดท้ายจะเป็นฟิลเลอร์ Definisse จาก อิตาลีนั่นเองค่ะ

  • Definisse Restore อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Definisse Core อยู่ได้นาน 18 เดือน

ไขข้อสงสัย ฟิลเลอร์ ฉีดในจุดไหนได้บ้าง 

จริง ๆ แล้ว ฟิลเลอร์ สามารถเติมเต็มได้หลายตำแหน่งเลยค่ะ อยู่ที่ว่าใบหน้าของเรานั้นพบปัญหาในรูปแบบไหน หรือ ต้องการเพียงแค่ปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูละมุนขึ้น ได้รูปมากขึ้น ในหัวข้อนี้จะขอพาผู้อ่านทุกท่านไปดูกันว่าฉีดฟิลเลอร์จุดไหนบ้างนะ ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากที่สุด จะมีจุดไหนบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ 

  • บริเวณใต้ตา
    ต้องบอกก่อนเลยว่า เมื่อเราเริ่มมีอายุมากขึ้นกระดูกบริเวณใต้ตาจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หากเราเริ่มเติมฟิลเลอร์บริเวณนี้จะช่วยให้ใบหน้าของเรานั้นดูอ่อนเยาว์ขึ้น ดูเด็กขึ้นแถมใต้ตายังสดใสมากขึ้นอีกด้วยนะ

  • บริเวณคาง
    ต้องบอกก่อนเลยว่าการเติมฟิลเลอร์บริเวณนี้เป็นการปรับรูปหน้าของเราให้สมมาตรยิ่งขึ้น ช่วยให้หน้าเรียววีเชฟ หากเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เลือกเทคนิคที่ถูกต้องจะได้ผลลัพธ์ที่ดูดีเป็นธรรมชาติไม่แพ้การศัลยกรรมคางเลยค่ะ

  • บริเวณร่องแก้ม
    ปกติแล้วการที่เรามีร่องแก้มลึกจะทำให้ใบหน้าดูมีอายุขึ้นด้วย ซึ่งความกลุ้มใจเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเริ่มเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ ซึ่งจริง ๆ แล้วการเติมฟิลเลอร์นั้นมีหลายเทคนิคเลยค่ะ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าคนไข้แต่ละคนนั้นเหมาะสมกับเทคนิคแบบไหน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นดีที่สุดค่ะ

  • บริเวณปาก
    บริเวณนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่ม ดูเซ็กซี่มากขึ้น นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปากแล้ว ยังช่วยลดริ้วรอยบริเวณปากอีกด้วยนะ โดยทั่วไปแล้วการฉีดฟิลเลอร์ปากเพียงแค่ 1 cc ก็สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงชัดเจนแล้วค่ะ

  • บริเวณขมับ
    รูปหน้าที่ไม่สมมาตรส่วนหนึ่งมากจากการที่ขมับตอบค่ะ ซึ่งการฉีดสารเติมเต็มบริเวณนี้นับว่าเป็นจุดสำคัญอีกจุดที่จะช่วยปรับรูปหน้าของเราเลยก็ว่าได้ ต้องขอบอกก่อนเลยว่าบริเวณขมับนี่แหละกำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งเลยค่ะ

  • บริเวณหน้าผาก
    บริเวณหน้าผากก็สามารถเติมฟิลเลอร์ได้นะคะ เนื่องจากบริเวณนี้ช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วนโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ แถมผลลัพธ์ที่ได้ยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วยนะ อ้อ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากก็ยังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งด้วยค่ะ

  • บริเวณจมูก
    สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากมีรูปทรงจมูกที่โด่ง คมชัด แต่กลัวการผ่าตัดเอามาก ๆ หรือ ไม่มีเวลาพักฟื้น การฉีดฟิลเลอร์บริเวณจมูกนั้นช่วยได้นะ แต่ต้องเป็นคนที่มีฐานจมูกอยู่บ้างแล้วนะ ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาสวยดูดีดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ เลยค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับใคร 

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่อยากมีแผลเป็น จึงเลือกการฉีดสารเติมเต็ม HA เพื่อเสริมบริเวณหน้าผากให้นูนขึ้นแทนการใช้ซิลิโคน ซึ่งหัตถการดังกล่าวนั้นสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ

  • ช่วยเติมเต็ม เพิ่มความโหนกนูนให้กับคนที่มีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากยุบ
  • มีร่องลึก รอยบุ๋มที่หน้าผาก
  • อยากเสริมโหงวเฮ้งหน้าผาก เพื่อส่งเสริมให้ชีวิตดีขึ้น

หน้าผากเป็นก้อน เป็นคลื่น หลังฉีดฟิลเลอร์ เกิดจากอะไร

  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำหัตถการ
    เนื่องด้วยการฉีดสารเติมเต็มจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดี ตรงตามใจของคนไข้ เนื่องจากหากแพทย์ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูก ผลลัพธ์ที่ได้จึงจะดูเป็นธรรมชาติ และ คงตัวนั่นเองค่ะ
  • เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากของแพทย์ผู้ทำหัตถการ
    เมื่อแพทย์ผู้ทำหัตถการเลือกใช้เทคนิคที่ถูกต้อง เมื่อแตะที่ผิวหน้าผากจะไม่ยวบยาบ คลำไม่เจอฟิลเลอร์แท้ที่เป็นเนื้อนิ่ม ๆ เพราะฟิลเลอร์จะอยู่ในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ที่เราคลำได้จะเป็นแผ่นเยื่อหุ้มกระดูกแข็ง ๆ ที่ถูกฟิลเลอร์ดันให้ยกขึ้น ผิวหน้าผากที่มองเห็นจะเรียบเนียนไม่เป็นคลื่นค่ะ
  • ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นที่ตื้นเกินไป
    หากฉีดในชั้นที่ตื้นขึ้นมาจะอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ สังเกตได้จากเมื่อแตะดูจะคลำได้เนื้อฟิลเลอร์นิ่ม ๆ ที่หน้าผาก เพียงกดเบา ๆ เนื้อฟิลเลอร์ก็จะยุบ หรือ ไหลได้ เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์จะโดนกล้ามเนื้อที่ใช้ยักคิ้วดึงมากองรวมเป็นก้อน และ ทำให้ไหลย้อยลง หรือ เป็นคลื่นได้ ถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ก็ตามค่ะ
  • ฟิลเลอร์ปลอม
    กรณีที่คนไข้เห็นแก่ของราคาถูก ซึ่งกรณีนี้พบบ่อย เนื่องจากการเติมฟิลเลอร์หน้าผากให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนนั้นต้องใช้ฟิลเลอร์หลายซีซี ตั้งแต่ 3-5 cc ขึ้นไป ซึ่งหากใช้ฟิลเลอร์แท้จะมีราคาค่อนข้างสูง ส่งผลให้หลายคลินิกจึงจัดโปรโมชั่นฟิลเลอร์หน้าผากโดยใช้ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งอันตรายของฟิลเลอร์ปลอมก็คือไม่สลายเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี จึงทำให้ไหลย้อยได้ หรือ ฟิลเลอร์ปลอมบางชนิดสลายไว และ เป็นผังผืดเป็นคลื่นนั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจฉีดสารเติมเต็มคนไข้ควรศึกษาข้อมูลจุดสังเกตฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ และ ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผู้ทำหัตถการแกะกล่อง แกะหลอดฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า หลังฉีดควรขอกล่องกลับบ้าน หรือ ถ่ายรูปกล่องเก็บไว้ตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้เพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ


การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ขมับ อันตรายไหม 

บริเวณหน้าผาก และ ขมับเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกันค่ะ หากคนไข้ต้องการฉีดสารเติมเต็มบริเวณดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความชำนาญการของแพทย์ผู้ทำหัตถการอย่างมาก เนื่องจากบริเวณนี้เป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังลูกตาได้โดยตรง และ การฉีดต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ในแต่ละจุดค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง แพทย์ที่มีประสบการณ์ และ ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน ก็มีความปลอดภัย 100% เลยค่ะ


ข้อดี และ ข้อควรระวัง ของการฉีดสารเติมเต็มบริเวณหน้าผาก

ข้อดี

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ใช้เวลาทำไม่นาน
  • เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัด เห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์
  • สามารถเพิ่ม-ลด ความนูน ออกแบบได้ตามต้องการ
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้อยู่ได้ 1 ปี และ ทยอยเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ
  • หากต้องการแก้ไขก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
  • สำหรับบางคนอาจจะเริ่มจากการเติมเพียง 1-2 cc ในครั้งแรก และ ค่อย ๆ ทยอยฉีดเพิ่มได้ค่ะ

ข้อควรระวัง

  • ฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร จะสลายไปเองตามธรรมชาติ
  • ในการฉีด 1 ครั้ง ไม่ควรใช้ฟิลเลอร์หน้าผากเกิน 5 cc
  • ต้องฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
  • ถ้าฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายได้

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ขมับ ควรใช้กี่ cc 

  • สำหรับเคสที่ต้องการแก้ไขร่องหน้าผากบริเวณเหนือคิ้วที่ยุบตัวลงเมื่อเราอายุมากขึ้นโดยไม่ได้ต้องการความโหนกนูนเน้นความเป็นธรรมชาติ แนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่ 1-2 cc ก็เพียงพอแล้วค่ะ
  • สำหรับเคสที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง ด้วยฟิลเลอร์หน้าผากให้โหนกนูนสามารถเลือกรูปของคนที่หน้าผากสวย ๆ มาเป็น Reference แพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าควรใช้กี่ cc และ วางแผนการรักษาร่วมกับคนไข้ตามความเหมาะสม ค่อย ๆ ทยอยฉีดทีละ 3-5 cc ได้ ซึ่งปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ทั้งหมดในกรณีนี้ก็จะอยู่ในช่วง 3-10 cc

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากไม่ควรฉีดเกินครั้งละ 5 cc นะคะ เนื่องจากจะเกิดการกดทับเนื้อเยื่อ และ บวมลงมาถึงบริเวณรอบดวงตาได้ แต่ก็จะเป็นแค่ชั่วคราวไม่เกิน 14 วันก็จะหายเป็นปกตินั่นเองค่ะ


ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี  ที่ The vogue ดีอย่างไร ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง 

หากคุณเป็นอีกคนที่มีปัญหาใบหน้าเหี่ยวย่อน ริ้วรยอร่องลึกตามบริเวณต่าง ๆ  จะเลือกฉีดสารเติมเต็มที่สถาบันความงามสักที่ แต่ก็กังวลว่าจะไม่ปลอดภัย วันนี้เรามีเคล็ดลับการพิจารณาสถาบันความงามมาฝากกันค่ะ ก่อนอื่นเลยเราต้องศึกษาข้อมูลคลินิกความงามให้ดีเสียก่อน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการเลือกตัวยาที่ผ่าน อย. ด้วยนะคะ แล้วเราสามารถพิจารณาคลินิกความงามจากอะไรได้บ้าง วันนี้ในหัวข้อนี้มีคำตอบค่ะ 

  • ความชำนาญของแพทย์
    อย่างแรกที่ต้องพิจารณาเลยคือ แพทย์ผู้ทำหัตถการค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผลงานของแพทย์ ซึ่งสามารถดูได้จากรีวิวของผู้เข้ารับบริการจริง, ประสบการณ์ของแพทย์, ใบประกอบวิชาชีพ และ การให้คำปรึกษาของแพทย์ ซึ่งข้อดีของการปรึกษาแพทย์โดยตรง ทำให้เรารู้ขั้นตอนการรักษา รวมถึงความน่าเชื่อถือของแพทย์ด้วย เนื่องจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถอธิบาย ให้คำแนะนำได้อย่างละเอียด และ ถูกต้องนั่นเองค่ะ

  • ความน่าเชื่อถือของคลินิกความงาม
    ต้องเป็นคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ได้รับมาตรฐาน มีความพร้อมของทีมแพทย์ รวมถึงเครื่องมือ และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ทำหัตถการต้องมีความสะอาด และ ปลอดเชื้อด้วยนะคะ

  • เครื่องมือสำหรับทำหัตถการ
    เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัย และ ไม่เป็นอันตราย จำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับมาตารฐาของคลินิกความงามให้ดี รวมไปถึงเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อด้วยนะคะ

  • รีวิวจากลูกค้าจริง ราคา และ โปรโมชั่นต่าง ๆ
    การเลือกฉีดสารเติมเต็ม กับคลีนิคความงามทั่วไปพราะราคาถูกนั้น อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ หรือ แย่กว่าที่คาดหวังไว้ เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมามากมาย ดังนั้นก่อนเราจะตัดสินใจว่าจะฉีดสารเติมเต็มที่ไหนดี ควรขอดูรีวิวจากลูกค้าจริง รวมถึงสอบถามข้อมูล ราคา โปรโมชั่นต่าง ๆ ให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อลดโอกาสการเกิดความเสี่ยงที่อาจตามมาในอนาคตอีกด้วยค่ะ

หากลังเลว่าเลือก ฉีดฟิลเลอร์ ชลบุรี คลินิกไหนดี ขอแนะนำที่ The vogue Clinic ของเรานำทีมโดยแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ และ มากประสบการณ์ พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย สะอาด ปลอดเชื้อ ใช้ฟิลเลอร์แท้ได้รับการรับรองจาก อย. ประเทศไทย แถมยังอัดแน่นไปด้วยรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงมากมาย คนไข้สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับความสวยควบคู่ไปกับความปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง

ฟิลเลอร์หน้าผากพลิกชะตาฟ้า เสริมโหงวเฮ้ง วาสนาดีไม่หยุด ฉุดไม่อยู่
08 ธ.ค. 2566

ฟิลเลอร์หน้าผากพลิกชะตาฟ้า เสริมโหงวเฮ้ง วาสนาดีไม่หยุด ฉุดไม่อยู่

ฟิลเลอร์