Mini Facelift

ยกกระชับ ปรับรูปหน้าด้วยศัลยกรรมดึงหน้า Mini Facelift แผลเล็กเปิดผิวน้อย

ใบหน้าก็เหมือนอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย ที่จะต้องเสื่อมสภาพตามวัย เป็นไปตามธรรมชาติไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้วิวัฒนาการทางการแพทย์เพียงแค่เป็นตัวช่วยให้การเสื่อมสภาพนั้นช้าลง หรือ ดูน้อยลงได้บ้างถ้าได้รับการดูแลที่ถูกวิธี อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะทางด้านศัลยกรรมความงาม หรือ ศัลยกรรมตกแต่งที่ให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในขณะเดียวกันก็ให้ผลข้างเคียงน้อยลง

การดึงหน้า Mini facelift เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้า เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาความเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยบางจุด เนื่องจากหัตถการนี้ช่วยยกระชับเฉพาะจุด ไม่ใช่การยกกระชับทั้งใบหน้า ที่ The VOGUE Clinic จะขอพามาทำความรู้จักกับหัตถการยอดฮิตสำหรับสาว ๆ ที่อยากกู้ปัญหาผิวหน้ามาฝากกันค่ะ

ผ่าตัดดึงหน้า (Facelift) คืออะไร

การผ่าตัดดึงหน้า คือ การทำศัลยกรรมเพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อ และ ไขมันใต้ผิวหนังให้กลับไปยังชั้นใต้ผิว SMAS พร้อม ๆ กับตัดผิวหนังส่วนเกิน หรือ ส่วนที่หย่อนคล้อยออก ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูกระชับ และ ผิวเรียบเนียนมากขึ้น อย่างไรก็ตามการผ่าตัดดึงหน้านั้น สามารถแบ่งได้หลายส่วน ดังนี้ค่ะ

• ใบหน้าส่วนบนคือบริเวณหน้าผาก (Forehead) บริเวณหางตา และ คิ้ว 
  การดึงใบหน้าส่วนบน และ หางตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารอยตีนกาบริเวณหางตา และ ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตกได้ จนมองด้านข้างไม่ชัดเจน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับผู้ที่อายุมาก การศัลยกรรมดึงใบหน้าส่วนบน จะช่วยให้รูปคิ้วโค้งขึ้น หางตาดูเฉี่ยวขึ้น ใบหน้าส่วนบนก็ยกขึ้นด้วย ทำร่วมกับการตัดกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยตีนกา เผยใบหน้าที่ดูเด็กลง อย่างเป็นธรรมชาติ
• ใบหน้าส่วนกลาง (Midface) โหนกแก้ม 
  เป็นการแก้ปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อยบริเวณส่วนกลาง และ ส่วนล่างของใบหน้า ตั้งแต่ผิวเปลือกตาล่าง ริ้วรอยใต้ตา ไปจนถึงร่องแก้ม ซึ่งในส่วนนี้ จะดึงล็อก ยกผิวหนังขึ้นแล้วเย็บยึดด้วยวัสดุพิเศษ เพื่อจะได้เก็บผิวได้ในตำแหน่งที่คนไข้ต้องการ จะเย็บซ่อนแผลที่อยู่ในจุดที่สังเกตเห็นได้ยาก ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลที่จะเกิดบนใบหน้า
  
• ใบหน้าส่วนล่าง และ คอ
  

  เมื่อผิวหนัง และ ไขมันเกิดการยุบตัวลง จนห้อยย้อยมาถึงคาง ขากรรไกร และ ลำคอ การกำจัดไขมันส่วนเกินที่หย่อนคล้อยลงมามักจะทำร่วมกับการทำแบบ Full face lift ไปพร้อมกันเลย แต่ก็จะมีคนไข้บางรายที่เคยผ่าตัดส่วนบนไปก่อนแล้ว และ ต้องการที่จะดึงคอเพิ่ม ก็สามารถทำได้ สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมอยู่ใต้คาง ทำให้คางหย่อนยาน เกิดเป็นเหนียงหลายชั้น แพทย์จะเปิดแผลใต้คางประมาณ 3 ซม. ทำร่วมกับการดูดไขมันเหนียง เพื่อผลลัพธ์ในการผ่าตัดชัดเจน และ ดียิ่งขึ้น พร้อมกับผ่าตัดยกกระชับคอซ่อนแผลหลังหูทั้งสองข้าง

ในบทความนี้จะขอพามาทำความรู้จักกันการดึงหน้า Mini facelift กันค่ะ 

ชั้นผิวหนังใบหน้าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ชั้นผิวหนังใบหน้าประกอบไปด้วย 4 ชั้นหลัก คือ ผิวหนัง, ไขมันใต้ผิวหนัง, ชั้น fascia และ ชั้นกล้ามเนื้อ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นใบหน้าจะสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง และ ความหย่อนคล้อยของชั้น fascia จะทำให้เกิดริ้วรอยทั่วใบหน้า

SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) คือ ชั้น fascia ที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อชั้นนอกสุด เป็นเนื้อเยื่อที่คงความแข็งแรงของใบหน้า ซึ่งหากยกกระชับชั้น SMAS นี้ด้วยในการทำศัลยกรรม จะช่วยให้ใบหน้ากระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และ ถาวรกว่า อย่างน้อย 10 ปี

ดึงหน้า Mini Facelift คืออะไร

ศัลยกรรม ดึง หน้า Mini Facelift คือ การผ่าตัดยกกระชับใบหน้าเฉพาะจุด ที่แผลมีขนาดเล็ก สามารถซ่อนรอยแผลได้อย่างแนบเนียน เหมาะสำหรับคนที่อยากแก้ไขความหย่อนคล้อยเฉพาะส่วน เช่น เฉพาะบริเวณกราม แก้ม ขมับ ตา และ คิ้ว ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยความหย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับ ดูเด็กลงโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ นับว่าเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แถมยังช่วยยกกระชับได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถลดอายุลง 10 – 20 ปี ใบหน้าดูสดใสเข้ารูป สามารถกลับมามีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตมากขึ้นค่ะ

Mini Facelift สามารปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ เด็กลงอย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่

ดึงหน้า Mini Facelift กับดึงหน้า Full Facelift ต่างกันอย่างไร 

• Mini Facelift
  เป็นการยกกระชับใบหน้าเฉพาะจุด เช่น เฉพาะบริเวณกราม แก้ม ขมับ ตา และ คิ้ว ตอบโจทย์สาว ๆ ที่เริ่มมีริ้วรอยเพียงเล็กน้อย อยากยกกระชับเฉพาะจุด
• Full Facelift
  เป็นการดึงยกกระชับทั่วทั้งหน้า ดึงยกกระชับทั้ง 3 ส่วน บริเวณใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนกลางถึงส่วนล่าง และ บริเวณลำคอ ตอบโจทย์สาวรุ่นใหญ่ ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับตัวเอง

อย่างไรก็ตามในส่วนของการเลือกยกกระชับเฉพาะจุด หรือ ยกกระชับทั่วทั้งหน้า ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนนะคะ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย แนะนำให้เข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อประเมินการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และ ผลลัพธ์หลังทำหัตถการที่น่าพึงพอใจค่ะ

Mini Facelift สามารถทำตำแหน่งไหนได้บ้าง

• ยกกระชับบริเวณตา
  เป็นกาแก้ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับบริเวณดวงตา เช่น หนังตาตก หางตาตก หรือ มีริ้วรอย รอยตีนกา นอกจากนี้ยังรวมถึงลักษณะหัวตาไม่เท่ากันด้วยค่ะ
• ยกกระชับบริเวณแก้มส่วนบน
  เป็นการผ่าตัดยกกระชับหน้าแก้มที่ดูหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ ให้ดูเต่งตึงขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาแก้มห้อย ทำให้หน้าดูโทรม และ ไม่กระชับ
• ยกกระชับร่องแก้ม
  เน้นแค่ร่องแก้มแค่ส่วนบนเพียงเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่แก้มบนมีความหย่อนคล้อย ปรับให้ดูกระชับ ยังไม่ถึงกับเกิดร่องน้ำหมากที่ชัดเจน

ข้อดีของการทำ ศัลยกรรม ดึง หน้า Mini Facelift

• สามารถแก้ไขปัญหาได้เฉพาะส่วน รวมถึงแก้ไขได้อย่างตรงจุด
• ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่นาน เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก
• เป็นหัตถการที่สามารถซ่อนแผลได้ดี แผลจะจางหายไป โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลเป็น
• หลังผ่าตัดสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่กระทบการใช้ชีวิตเหมือนศัลยกรรมประเภทอื่น ๆ
• ป้องกันริ้วรอย ความหย่อนคล้อยก่อนวัยได้ เมื่อทำเฉพาะจุดจะสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยกวนใจ
• แก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย และ ริ้วรอยได้ตรงจุด ส่งผลให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น

ข้อควรระวังในการผ่าตัดดึงหน้าแผลเล็ก (Mini Facial)

การผ่าตัดดึงหน้าแบบแผลเล็ก หรือ ทำ Mini Facelift แม้จะเป็นศัลยกรรมที่ทำให้หน้าดูเด็กลง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับริ้วรอยบนในหน้าของแต่ละบุคคล และ จะเห็นผลมากกับผู้สูงอายุที่มีริ้วรอยเยอะ 

สำหรับผู้ที่มีอายุมาก สามารถดึงทั้งใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้ เหมือนกับการย้อนวัย แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งแพทย์จะทำการวินิจฉัยสภาพผิวหนังก่อนที่จะเริ่มศัลยกรรมดึงยกกระชับใบหน้า

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีอายุประมาณ 30 ปี อาจพอทำบางส่วนที่ผิวหนังหย่อนคล้อยเกินวัยได้ เช่น ยกคิ้ว ยกหน้าผาก แต่หากมีปัญหาริ้วรอยเพียงเล็กน้อย แพทย์อาจจะแนะนำให้ใช้วิธีอื่นในการรักษาที่เหมาะสมกว่า เช่น การร้อยไหม ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูล และ ปรึกษาแพทย์ก่อน

ขั้นตอนการยกกระชับใบหน้าแบบ Mini Facelift 

หลายคนที่สนใจอยากดึงหน้าแบบ Mini facelift แต่ยังเกิดความวิตกกังวลต่าง ๆ เนื่องจากยังไม่เข้าใจแน่ชัดถึงขั้นตอนการทำหัตถการ ในหัวข้อนี้จะพาไปดูกันนะคะว่า ขั้นตอนการดึงหน้านั้นทำอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

• แพทย์จะทำการระงับความเจ็บปวดด้วยการฉีดยาชาบริเวณส่วนที่จะผ่าตัด 
• จากนั้นทำการเปิดแผลขนาดเล็ก บริเวณช่วงขมับจนถึงขอบหูส่วนบน ทั้ง 2 ข้าง
• แพทย์จะทำการเลาะชั้นใต้ผิวหนัง ลงไปถึงประมาณใบหน้าส่วนล่าง บริเวณชั้นใต้ผิว SMAS
• เริ่มตกแต่ง ดึงยกกระชับเก็บความหย่อนคล้อย ให้ดูเป็นธรรมชาติ
• เมื่อได้ตำแหน่งที่พึงพอใจแล้ว จะเย็บเก็บในตำแหน่งใหม่ และ ตัดผิวหนังส่วนเกินออก
• เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย แพทย์จะใช้เทคนิคซ่อนแผลให้สวยงาม หมดกังวลเรื่องรอยแผลเป็น

ระยะเวลาในการผ่าตัดดึงหน้าแบบ Mini Facelift 

ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง หลังการผ่าตัดอาจมีอาการบวม หรือ เขียวช้ำบ้างในสัปดาห์แรก แต่การบวม หรือ การอักเสบที่เกิดขึ้นจะไม่มาก ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

ผลลัพธ์หลังการดึงหน้า Mini Facelift อยู่ได้นานเท่าไหร่

การผ่าตัดยกกระชับใบหน้าสามารถอยู่ได้ยาวนาน อย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป ขึ้นกับสภาพผิว และ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดดึงหน้าแผลเล็กนี้เป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความชำนาญของศัลยแพทย์ และ อุปกรณ์พิเศษ ผลการรักษาจึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของศัลยแพทย์ด้วยค่ะ

การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าแผลเล็ก

การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะ หากคนไข้ด๔แลตัวเองดี ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดระยะเวลาในการพักฟื้นลงอีกด้วย สำหรับในหัวข้อนี้จะพาไปดูกันว่า การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดนั้นมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย

• หลังผ่าตัดเสร็จ แนะนำว่าควรประคบเย็นอย่างน้อย 48 – 72 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวมช้ำควรประคบบริเวณรอบ ๆ แผล ระมัดระวังอย่าให้โดนแผลโดยตรง 
• หลังจากนั้นประคบต่อเนื่องไปอีก 3 วัน จึงเริ่มเปลี่ยนเป็นประคบเย็นในช่วงตอนกลางคืนทำติดต่อกันประมาณ 1-2 สัปดาห์ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณแผล ห้ามแผลโดนน้ำโดยเด็ดขาด หรือ โดนกระแทกบริเวณใบหน้า และ ลำคอ เป็นเวลา 7 วัน
• นอนศีรษะให้สูงเพื่อช่วยลดอาการบวมเป็นเวลาประมาณ 1 อาทิตย์
• ควรทำความสะอาดแผลทุกวัน โดยใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือซับเบา ๆ บริเวณแผล
• ใส่ที่ผ้ารัดหน้าหลังจากทำศัลยกรรมอย่างน้อย 3-5 วัน เพื่อช่วยพยุงแผลจากภายนอกอีกทาง หลังจากนั้นใช้ผ้ารัดเฉพาะบริเวณกลางคืนต่อเป็นเวลา 1 เดือน
• งดรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารทะเล อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ วิตามิน และ อาหารเสริม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลาอย่างน้อย
• งดกิจกรรม การออกกำลังกายทุกชนิด ที่จะทำให้กระทบกระเทือนแผล ประมาณ 2 อาทิตย์
• ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

ปรับรูปหน้าให้เหมาะสมสวยงาม กระชากวัย ด้วยวิธีใดได้บ้าง

• โบทูลินัม ท็อกซิน (botulinum toxin) 
  เหมาะสำกหรับริ้วรอยเหี่ยวย่นในคนที่อายุไม่มากนัก ผิวหนังไม่หย่อน คล้อยมาก การใช้ โบทูลินัม ท็อกซิน (botulinum toxin) จะหยุดการ ทําางานของกล้ามเนื้อ ที่แสดงอาการของใบหน้า ทําาให้ไม่เกิดริ้วรอย ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี หรือ ฉีดมากไปใบหน้าจะแข็ง ไม่แสดงความรู้สึก 
• การใช้คลื่นพลังงาน
  การใช้คลื่นพลังงานชนิดต่าง ๆ ทําให้เกิดการบาดเจ็บในชั้นใต้ผิวหนัง โดยไม่ทําอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก แต่กระตุ้นให้เกิดพลังงานความร้อนขนาดที่เหมาะสม หรือ คือการเผาเนื้อชั้นในโดยไม่ทําอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก จึงไม่เกิดร่องรอยที่ผิวหนัง  
  • Thermage
    คือการใช้คลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ทำให้เกิดความร้อนเผาใต้ชั้นผิวหนัง
  • HiFU/Ulthera
    ทั้งสองตัวนี้ใช้ high focus ultrasound คือ คลื่นเสียงความถี่สูง เป็นพลังงานกระตุ้นให้เกิดความร้อนเผาใต้ชั้นผิวหนัง บนตําแหน่งที่ต้องการ
• การใช้ไหมในการยกกระชับใบหน้า
  การนําไหมก้างปลามาใช้ในการยกกระชับใบหน้า และ แพร่หลายไปทั่วโลก จนมีการพัฒนาไหมชนิดใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อแก้ข้อด้อยของไหมก้างปลาที่ได้ผลระยะสั้น ๆ โดยเฉพาะทําให้มีการเกาะเกี่ยวที่แข็งแรงขึ้น เช่น ไหมรูปกรวย ไอศกรีม ไหมชนิดตาข่าย (mesh thread) และ ไหมรุ่นใหม่อีกหลายชนิด ที่มีก้างปลาแข็งแรงกว่าเดิม
• เอ็นโดไทน์ (ENDOTINE)
  เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ความจริงมีหลักการเดียวกับไหมที่มีการเกาะเกี่ยว แต่ผลิตเป็นชิ้นที่ใหญ่กว่าไหมที่เราใช้อยู่ โดยทําจากวัสดุที่สามารถละลายได้เช่นเดียวกับไหมละลาย ทําเป็นชิ้นต่าง ๆ ตามชนิดของงาน เช่น Endotine Ribbon ใช้ยกหน้า, Endotine Brow ใช้ยกคิ้ว, หรือ ชนิดที่ใช้ยึดไหมเวลาดึงหน้าผากด้วยกล้อง 
• การดึงหน้าเฉพาะส่วน หรือ การดึงหน้าโดยมีแผลขนาดเล็ก
  เป็นการผ่าตัดที่พัฒนามาเพื่อลดขนาดแผลผ่าตัด ให้มีการบวมน้อยลง และ ลดระยะเวลาการพักฟื้นหลังผ่าตัดมีศัพท์ทางการแพทย์ที่เรียกการผ่าตัดเหล่านี้ เช่น minilift, temporal lift, MACS lift etc. การผ่าตัดแบบนี้ไม่ใช่วิธีใหม่ ดังที่ศัลยแพทย์แต่ละคนพยายามจะดัดแปลงวิธีมาตรฐาน แล้วพยายามเรียกช่ือให้ดูแปลกใหม่ ดังที่เคยเป็นข่าวดัง เช่น face off, face lock เป็นต้น เพราะที่จริงแล้วชื่อเหล่านี้ไม่มีความหมายมาก เนื่องจากความจริง ก็คือการทำ face lift แบบหนึ่งเท่านั้น 
• การผ่าตัดดึงหน้า (face lift) 
  เป็นวิธีมาตรฐานที่ได้ผลมากที่สุดแต่ก็จะบวม และ มีการพักฟื้นนานที่สุดเช่นกัน โดยผู้ป่วยจะต้องมีแนวแผลผ่าตัดยาว จากไรผมบริเวณขมับ ผ่านหน้าหู มาจนถึงใต้ติ่งหู หรือ หากมีการดึงส่วนคอร่วมด้วย ก็อาจจะเลยมาถึงหลังหู การผ่าตัดชนิดนี้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด และ ผลการผ่าตัดจะคงอยู่นานที่สุด เนื่องจากมีการตัดหนังส่วนเกินออกด้วย แต่ไม่ใช่ว่าจะอยู่นานเป็น 10 ปี 
• ฟิลเลอร์ (Filler)
  การฉีดฟิลเลอร์ปิดร่องตาร่องแก้ม การฉีดฟิลเลอร์ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และ ต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางที่ผ่านการฝึกอบรมมา เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ที่เกิดขึ้นหลายรายในเมืองไทย คือภาวะตาบอด เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
• การฉีดไขมันที่หน้า
  ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันด้วยเหตุผลหลายประการคือมีความปลอดภัยเพราะไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมอีกทั้งได้ผลการเติมเต็มที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการพิสูจน์แล้วว่าไขมันเป็นส่วนที่สามารถสร้างสเตมเซลล์ที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหน้าได้

คำถามที่พบบ่อย ดึงหน้า

Q:การดึงหน้าสามารถทำร่วมกับหัตถการเพื่อความงามอื่น ๆ ได้หรือไม่
A:การดึงหน้าสามารถทำร่วมกับหัตถการเพื่อความงามอื่น ๆ ได้ ข้อดีคือสามารถฟื้นฟูผิวหน้าได้อย่างครอบคลุม โดยไม่ต้องทำหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมเปลือกตา (ตัดผิวเปลือกตาที่หย่อนคล้อยออก) การยกคิ้ว การดึงคอ หรือ การฉีดไขมันที่หน้าร่วมกับการดึงหน้า ทั้งนี้ศัลยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำการทำหัตการที่เหมาะสมกับผู้รับบริการแต่ละบุคคล 

Q:การดึงหน้าจะช่วยกำจัดริ้วรอย และ ความหย่อนคล้อยบนใบหน้าได้ทั้งหมด หรือไม่
A:การผ่าตัดดึงหน้า คือหัตถการความงามที่ช่วยยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และ ความหย่อนบนใบหน้าให้ดีขึ้น อาจไม่สามารถกำจัดริ้วรอยความหย่อนคล้อยบนใบหน้าที่เกิดขึ้นตามวัยได้ทั้งหมด แต่สามารถเลือกดึงได้ตามสภาพผิวหน้า ดึงหน้าเฉพาะจุด หรือ บางส่วน เช่น ดึงบริเวณขมับ และ แก้มที่ห้อยให้ยกขึ้น กรณีผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องศัลยกรรมดึงหน้าทั้งหมด คือ ดึงหน้า ดึงหน้าผาก ดึงคอ ซึ่งจะดึงจุดไหน หรือ มากน้อยเพียงใดขึ้นกับสภาพผิวหน้าของแต่ละคน และ ดุลยพินิจของแพทย์

Q:อายุเท่าไหร่ จึงจะเหมาะกับการดึงหน้า
A:การดึงหน้า ไม่มีข้อจำกัดตายตัวสำหรับอายุที่เหมาะสม การทำขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นของผิว โครงสร้างใบหน้า และ เป้าหมายของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อย และ ต้องการดึงหน้า มักมีอายุตั้งแต่ 40-70 ปี และ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีเมื่อต้องการผ่าตัดดึงหน้า ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานได้รับอนุญาตถูกต้อง มีศัลยแพทย์วิชาชีพเป็นผู้ให้บริการ

Q:ดึงหน้า แบบไม่มีแผลยาว ไม่ฟกช้ำอะไรเลย เป็นไปได้ไหม
A:สมมติว่าปัญหาหน้าห้อยนั้น เกิดจากผิวหนังอย่างเดียว การตัดเย็บผิวหนังแบบง่าย ๆ ซึ่งทำง่ายมาก ใช้ยาชาเฉพาะที่ แผลเล็ก และ ช้ำน้อยมาก คงแก้ไขเรื่องนี้ได้ แต่จากภาพประกอบจะเห็นได้ว่า มีปัญหาหลายอย่างใต้ต่อผิวหนังตั้งแต่กระดูกถึงเส้นเอ็นต่าง ๆ ดังนั้น การผ่าตัด หรือ วิธีการรักษาใดก็ตามที่แก้ไขเพียงผิวหนังด้านบน ย่อมไม่สามารถแก้ไขความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด

Q:ความเสี่ยงจากการผ่าตัดดึงหน้า
A:แน่นอนว่าการผ่าตัดย่อมมีความเสี่ยง บริเวณใบหน้าประกอบไปด้วยเส้นเลือด และ เส้นประสาทมากมาย ซึ่งหากไม่ได้ทำการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดบริเวณหน้าเป็นอย่างดี ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาจากการบาดเจ็บโครงสร้างสำคัญเหล่านี้ การผ่าตัดทุกวิธีที่กล่าวไปย่อมมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ระยะเวลาผ่าตัด ค่าใช้จ่ายจากอุปกรณ์พิเศษ รวมไปถึงประสิทธิภาพของการแก้ไขปัญหาในแต่ละจุดของใบหน้า ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่างประกอบกันไป