ผ่าตัดดึงหน้า

ผ่าตัดดึงหน้า

ศัลยกรรมดึงหน้า คือการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังที่มีความหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียน ขาดความกระชับ รวมถึงมีริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ให้กลับมากระชับ เรียบเนียนอีกครั้ง พร้อมทั้งคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า นอกจากนี้ยังสามารถปรับกล้ามเนื้อให้มีความกระชับขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษที่สามารถดึงหน้าได้ลึกถึงชั้น SMAS 

จบปัญหาความหย่อนคล้อยริ้วรอยแห่งวัยด้วย “ศัลยกรรมดึงหน้า” ดึงให้ตึง ขึงให้เป๊ะ ด้วยเทคนิคพิเศษ

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย เนื่องจากผิวหนังได้มีการสูญเสียคอลลาเจนจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อย ริ้วรอยแห่งวัยต่าง ๆ ตามมา การศัลยกรรมดึงหน้าจึงเป็นทางออกหนึ่งเดียวของผู้ที่ต้องการลดอายุ คืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า นอกจานี้ยังเป็นเทคนิคการศัลยกรรมยกกระชับใบหน้าและลำคอ เพื่อลดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย ที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของอายุหรือการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยเป้าหมายหลักคือการคืนความอ่อนเยาว์และสมดุลให้ใบหน้าอีกด้วย

สารบัญ


ดึงหน้าคืออะไร

ศัลยกรรมดึงหน้า คือการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังที่มีความหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียน ขาดความกระชับ รวมถึงมีริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า ให้กลับมากระชับ เรียบเนียนอีกครั้ง พร้อมทั้งคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า นอกจากนี้ยังสามารถปรับกล้ามเนื้อให้มีความกระชับขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษที่สามารถดึงหน้าได้ลึกถึงชั้น SMAS (SMAS : Superficial Musculoaponeurotic System) โดยหมอจะเลือกพิจารณาตามความเหมาะสมของคนไข้ อย่างไรก็ตามในส่วนของการดึงหน้าสามารถแบ่งลักษณะการผ่าตัดออกได้ทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกันค่ะ

  • บริเวณใบหน้าส่วนบน Upper Face Lift ได้แก่ ขมับ หางตา หางคิ้ว หน้าผาก โหนกแก้ม
  • บริเวณใบหน้าส่วนกลาง Middle Face Lift ได้แก่ หน้าแก้ม ร่องแก้ม
  • บริเวณใบหน้าส่วนล่าง Lower Face Lift ได้แก่ ยกมุมปาก ร่องน้ำหมาก กรอบหน้า

ชั้นผิวหนังใบหน้าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

ชั้นผิวหนังใบหน้าประกอบไปด้วย 4 ชั้นหลัก คือ ผิวหนัง, ไขมันใต้ผิวหนัง, ชั้น fascia และชั้นกล้ามเนื้อ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นใบหน้าจะสูญเสียไขมันใต้ผิวหนัง และความหย่อนคล้อยของชั้น fascia จะทำให้เกิดริ้วรอยทั่วใบหน้า

SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) คือ ชั้น fascia ที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อชั้นนอกสุด เป็นเนื้อเยื่อที่คงความแข็งแรงของใบหน้า ซึ่งหากยกกระชับชั้น SMAS นี้ด้วยในการทำศัลยกรรม จะช่วยให้ใบหน้ากระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพและถาวรกว่า อย่างน้อย 10 ปี


ดึงหน้าแต่ละส่วนสามารถแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

1.บริเวณใบหน้าส่วนบน (Upper Face Lift)
ดึงหน้าผาก (Forehead Lift) เป็นการดึงหน้าส่วนบนที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหัวคิ้วย่น ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตาตก คิ้วต่ำกว่าระดับปกติ จนเกิดปัญหาในเรื่องของการมองเห็น ปกติแล้วบริเวณหน้าผากของเราจะประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง หากเราเลิกคิ้วเป็นประจำจะเกิดริ้วรอยร่องลึกมีลักษณะเป็นเส้นยาวบริเวณหน้าผากได้

2.ดึงใบหน้าส่วนบนและหางตา (Middle Face Lift)
การดึงหน้าในส่วนนี้จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาหางตาตก ตาดูเศร้า โหนกแก้มมีความหย่อนคล้อย เนื่องจากหากเลือกดึงหน้าเพื่อยกกระชับในส่วนนี้จะช่วยให้หางตาและโหนกแก้มที่หย่อนคล้อยยกขึ้น ริ้วรอย รอยตีนกาบริเวณหางตาก็ลดลงไปด้วย ใบหน้าก็จะดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ 

3.ดึงใบหน้าส่วนกลางเเละส่วนล่าง (Lower Facelift) 

  • ดึงบริเวณร่องแก้ม หน้าแก้ม
    บริเวณร่องแก้มหรือร่องน้ำหมากเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าแลดูมีอายุ เมื่อบริเวณดังกล่าวถูกทำให้ตึงขึ้น กระชับขึ้น ยกขึ้น จะช่วยเพิ่มความเรียวให้กับใบหน้า ร่องลึกบริเวณแก้มก็จางลงด้วยค่ะ
  • ดึงคอ (Neck Lift)
    เหมาะสำหรับคนที่ลำคอเกิดความหย่อนคล้อย มีเหนียง การดึงคอจะทำให้ลำคอตึงขึ้น ลดความหย่อนคล้อย ลดเหนียงบริเวณคอ 

เทคนิคผ่าตัดดึงหน้า

1. ผ่าตัดดึงส่วนบน หน้าผาก ยกคิ้ว และยกหางตา

เป็นการลดริ้วรอยบริเวณ หัวคิ้ว รอยตีนตา ริ้วรอยร่องลึกหรือริ้วรอยเล็กๆ บริเวณหน้าผากและหางตา โดยการผ่าตัดเพื่อดึงให้ตึงและกระชับมากขึ้น โดยเทคนิคของการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 เทคนิคด้วยกันค่ะ

  • เทคนิคที่ 1 ศัลยกรรมดึงหน้าผากเปิดแผลตามแนวไรผม (Hair Line)
    เป็นการผ่าตัดดึง ยกกระชับ รอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากขึ้นไป โดยหมอจะทำการตัดเนื้อเยื่อส่วนเกินของผิวหนังบริเวณดังกล่าวออก แล้วทำการเย็บปิดแผลบริเวณไรผม จึงเหมาะสำหรับคนที่มีหน้าผากกว้าง ต้องการให้หน้าผากแคบลง
  • เทคนิคที่ 2 ศัลยกรรมดึงหน้าผาก (Endotine)
    เป็นการผ่าตัดผ่ากล้อง Endoscopic ในชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อ จากนั้นใช้วัสดุ Endotine ที่มีลักษณะคล้ายหมุด ซึ่งเป็นวัสดุทางการแทพย์มีขนาดเล็กซึ่งมีประสิทธิภสพในการยึดล็อคผิวบริเวณหน้าผากไว้ วัสดุดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อผิว สามารถสลายได้เอง โดยไม่ทิ้งสิ่งแปลกปลอมตกค้างในชั้นผิว แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมากและจะถูกซ่อนไว้บริเวณไรผมด้านบนและด้านข้าง หมดกังวลเรื่องรอยแผลเป็นไปได้เลยค่ะ
  • เทคนิคการผ่าตัดยกหางตาแบบ foxy eyes
    เป็นการผ่าตัดยกหนางตาแบบเปิดแผลบริเวณขมับทั้งสองข้าง โดยมีความยาวแผลอยู่ที่ 3-4 ซม.จากนั้นทำการตัดเลาะกล้ามเนื้อ และผิวหนังส่วนเกินออก เพื่อยกหางตาให้ตึงขึ้นในแนวเฉียงตามความต้องการของคนไข้ จากนั้นเริ่มเย็บกล้ามเนื้อ และเย็บปิดแผลบริเวณไรผมที่ขมับพอดีโดยลักษณะแผลจะเป็นเส้นตรงยาวไม่มาก ในช่วงแรกอาจจะสังเกตุเห็นได้ง่าย แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะเริ่มมองไม่เห็นแผลดังกล่าวแล้วค่ะ
2. ผ่าตัดดึงใบหน้าส่วนกลางและล่าง

เป็นการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณส่วนกลางและส่วนล่างของใบหน้าตั้งแต่ผิวหนังบริเวณใต้ตาไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยใต้ตา ไปจนถึงร่องแก้ม หมอจะทำการยกกระชับผิวหนังในตำแหน่งที่เหมาะสม รวมถึงเย็บซ่อนรอยแผลในจุดที่สังเกตุเห็นได้ยาก โดยการดึงใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่างจะมีด้วยกัน 2 เทคนิคค่ะ

    • เทคนิคที่ 1 การผ่าตัดแบบแผลเล็ก (Mini facelift)
      เป็นการเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณขมับยาวลงมาถึงขอบหูส่วนบนทั้งสองข้าง จาดนั้นเลาะชั้นใต้ผิวหนังยาวลงไปถึงใบหน้าส่วนกลาง ในช้น SMAS และดึงยกกระชับ ตัดหนังส่วนเกินออก แล้วเย็บในตำแหน่งใหม่ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนที่มีความหย่อนคล้อยบริเวณร่องแก้มค่ะ
    • เทคนิคที่ 2 การผ่าตัดแบบดึงทั้งหน้า (Full face lift)
      เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยทั้งใบหน้าเลยค่ะ โดยหมอจะทำการเปิดแผลหน้าหูและติ่งหูทั้งสองข้าง จากนั้นจะทำการเลาะเนื้อเยื่อและดึงผิวหนัง พร้อมกับตัดผิวหนังส่วนเกินออก จากนั้นเย็บปิดแผลให้สวยงามค่ะ
3.ผ่าตัดดึงคอ

ความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณขากรรไกร คาง และลำคอเกิดจากการสลายหายไปของไขมันจนห้อยลงมา การดึงคอมมักจะทำร่วมกับการดึงหน้าแบบ Full face lift สำหรับคนไข้ที่มีไขมันสะสมอยู่ใต้คาง ทำให้คางดูหย่อนยาน เกิดเป็นเหนียงหลายชั้น แพทย์จะเปิดแผลใต้คางประมาณ 3 ซม. ทำร่วมกับหัตถการดูดไขมันเหนียง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการผ่าตัดที่ชัดเจนและดียิ่งขึ้น พร้อมกับผ่าตัดยกกระชับคอซ่อนแผลหลังหูทั้งสองข้างด้วยค่ะ


ดึงหน้า Mini Facelift กับดึงหน้า Full Facelift ต่างกันอย่างไร 

  • Mini Facelift
    เป็นการยกกระชับใบหน้าเฉพาะจุด เช่น เฉพาะบริเวณกราม แก้ม ขมับ ตาและคิ้ว ตอบโจทย์สาว ๆ ที่เริ่มมีริ้วรอยเพียงเล็กน้อย อยากยกกระชับเฉพาะจุด
  • Full Facelift
    เป็นการดึงยกกระชับทั่วทั้งหน้า ดึงยกกระชับทั้ง 3 ส่วน บริเวณใบหน้าส่วนบน ใบหน้าส่วนกลางถึงส่วนล่าง และบริเวณลำคอ ตอบโจทย์สาวรุ่นใหญ่ ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับตัวเอง

อย่างไรก็ตามในส่วนของการเลือกยกกระชับเฉพาะจุด หรือยกกระชับทั่วทั้งหน้า ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนนะคะ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย แนะนำให้เข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อประเมินการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และผลลัพธ์หลังทำหัตถการที่น่าพึงพอใจค่ะ


ก่อนตัดสินใจศัลยกรรมดึงหน้า ควรรู้อะไรบ้าง

จบทุกปัญหาความหย่อนคล้อย และริ้วรอยแห่งวัยด้วยการศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) ซึ่งเป็นการผ่าตัดดึงผิวหนังส่วนเกินออก ให้ผลลัพธ์เหนือกาลเวลา มอบความกระชับเต่งตึงแม้อายุเยอะ คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าราวกับคุณได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แต่ก่อนจะตัดสินใจทำการ “ศัลยกรรมดึงหน้า” นั้น เรามาดูข้อควรรู้ที่ไม่ควรพลาดมาบอกต่อกัน

  • ศัลยกรรมดึงหน้าคือการผ่าตัดเพื่อนำผิวหนังส่วนเกินที่มีความหย่อนคล้อยออก
    การศัลยกรรมดึงหน้าก็คือ “การผ่าตัด” ที่ต้องนำผิวหนังส่วนเกินที่มีความหย่อนคล้อยออก โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลให้ลึกถึงชั้นผิวหนัง SMAS ความยาวแผลตั้งแต่ขมับถึงหน้าดูตามแนวผม เพื่อดึงเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ หรือเนื้อเยื่อผิวชั้น SMAS ให้ตึง แล้วเย็บกับเนื้อเยื่อส่วนที่แข็งแรง จากนั้นแพทย์จะดึงผิวหนังส่วนเกินออกเพื่อตัดทิ้ง แล้วเย็บปิดบาดแผลซึ่ง โดยปกติแล้ว “การผ่าตัด” มักจะทิ้งรอยแผลจากการเย็บปิดแผลไว้ ทำให้หลายคนกลัวการผ่าตัด 
  • หัตถการนี้เป็นการผ่าตัดที่ต้องพักฟื้นและต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
    อยากสวยต้องใช้เวลา ทุกการผ่าตัดต้องมีการพักฟื้นและระยะเวลาเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบต่อชีวิตประจำวัน ขอแนะนำให้วางแผนเรื่องวันและเวลาการเข้ารับการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้านะคะ โดยรายละเอียดระยะเวลาจะมีดังนี้
    • ระยะเวลาในการผ่าตัด : ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง
    • ระยะเวลาในการพักฟื้น : 1 สัปดาห์ *ระหว่างพักฟื้นอาจมีอาการบวมช้ำ
    • ระยะเวลาในการตัดไหม : 10 วันหลังจากผ่าตัด
    • ระยะเวลาในการแสดงผลลัพธ์ : เห็นผลลัพธ์ที่ 1 เดือนขึ้นไปหลังการผ่าตัด และอยู่ได้นานถึง 10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของบุคคล
  • หัตถการนี้เป็นนวัตกรรมที่ให้มากกว่าการยกกระชับใบหน้า
    สำหรับคนที่กังวลเรื่องความคุ้มค่า เนื่องจากการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า เป็นศัลยกรรมเสริมความงามที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ในความจริงแล้วหากต้องการได้ผลลัพธ์ “การยกกระชับหน้า” ที่ดีที่สุดและอยู่ได้ยาวนาน เมื่อเทียบการผ่าตัดกับการใช้หัตถการหรือเครื่องสำอางแล้ว บอกเลยว่าคุ้มค่ากว่าแน่นอนค่ะ เพราะเป็นการจ่ายแค่ครั้งเดียวแต่ให้ผลลัพธ์นานถึง 10 ปี ซึ่งผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้ายังให้มากกว่าการกระชับด้วยไม่ว่าจะ ช่วยให้เรื่องของกรอบหน้า ลดริ้วรอย ผิวเรียบเนียน และลดอายุให้ใบหน้าลงถึง 10 ปี
  • การดึงหน้าแต่ละส่วน ให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
    การผ่าตัดยกกระชับหน้านั้น จะไม่ใช่แค่การเปิดแผลส่วนใดส่วนหนึ่ง แล้วจะสามารถดึงกระชับได้ตั้งแต่คิ้วจนถึงลำคอ เนื่องจากการดึงผิวส่วนเกินแต่ละส่วน จะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันดังนี้
    • ส่วนหน้าผาก : ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ปรับผิวให้ตึงและเรียบขึ้น
    • ส่วนคิ้ว : ช่วยในเรื่องของปัญหาหนังตาตก ทำให้ดวงตาดูเปิดกว้างสดใสขึ้น
    • ส่วนแก้ม : แก้ไขปัญหาแก้มห้อย ลดร่องแก้มหรือร่องน้ำมาก
    • ส่วนลำคอ : ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นตรงลำคอมให้ตึงและกระชับเหมาะกับที่อายุมากการดึงให้หน้ากระชับส่วนเดียว อาจดูไม่สมดุลกันจึงต้องดึงลำคอให้ตึงด้วย
  • หากไม่ได้ทำกับแพทย์เฉพาะทางอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์
    การผ่าตัดดึงหน้า เป็นการผ่าตัดลึกถึงชั้นผิวซึ่งประกอบไปด้วยเส้นประสาทมากมาย แพทย์ที่ทำการผ่าตัดจึงต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีความรู้เรื่องผิวหนังโครงสร้างใบหน้ารวมไปถึงเส้นประสาทต่างๆ หากแพทย์ไม่ชำนาญอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดระหว่างผ่าตัดซึ่งยากที่จะแก้ไข และเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ผลลัพธ์จากการทำการผ่าตัดที่ผิดพลาด
    • โดนเส้นประสาท มีผลทำให้ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
    • เลือดคั่งในแผล ปวดและบวมช้ำมาก
    • ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ
    • แผลติดเชื้อเนื้อเยื่อตาย

เหตุผลดี ๆ ทำไมต้องดึงหน้า ที่ The VOGUE Clinic ชลบุรี

  • ที่ The VOGUE Clinic ของเราทำการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการมากประสบการณ์
  • แพทย์มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของดีไซน์ใบหน้า พร้อมประเมินปัญหาและเลือกเทคนิคแก้ไขตามปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ
  • ทีมแพทย์ The VOGUE Clinic ให้ความสำคัญในกระบวนการการผ่าตัดอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริเวณชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ใกล้กับเส้นประสาทมาก จึงเอาใจใส่เป็นพิเศษ
  • วิสัญญีแพทย์ ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดการผ่าตัด
  • ศัลยแพทย์จะตัดผิวหนังส่วนเกินในปริมาณที่พอดี ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากใบหน้าเข้าที่แล้ว ดูไม่หลอกตา สามารถแสดงสีหน้าและอารมณ์ได้ปกตินั่นเองค่ะ
  • ผ่าตัดยกกระชับไปถึงชั้น SMAS ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าการทำแบบทั่วไปแน่นอน
  • เทคนิคซ่อนแผล ตามแนวไรผมและขอบใบหู ทำให้สังเกตเห็นได้ยาก

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  • ควรลางานประมาณ 1 สัปดาห์
  • งดการดื่มน้ำและรับประทานอาหาร 8 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัด
  • งดทานวิตามินเสริมทุกชนิด 2 สัปดาห์ ก่อนและหลังการผ่าตัด
  • งดสูบบุหรี่ 1 เดือน ก่อนและหลังการผ่าตัด
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์ ก่อนและหลังการผ่าตัด
  • ควรสระผมมาก่อนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากในช่วงแรกหลังการผ่าตัดอาจสระผมไม่สะดวก
  • ควรงดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการผ่าตัด หรือไม่ควรใช้เครื่องสำอางที่ทำความสะอาดยาก
  • ควรมีผู้ติดตามคอยดูแลในวันผ่าตัด ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะเอง
  • หากมีโรคประจำตัว, ใช้ยาโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนนัดทำการผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมดึงหน้า

  • หลังผ่าตัดเสร็จ แนะนำว่าควรประคบเย็นอย่างน้อย 48 – 72 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวมช้ำควรประคบบริเวณรอบ ๆ แผล ระมัดระวังอย่าให้โดนแผลโดยตรง 
  • หลังจากนั้นประคบต่อเนื่องไปอีก 3 วัน จึงเริ่มเปลี่ยนเป็นประคบเย็นในช่วงตอนกลางคืนทำติดต่อกันประมาณ 1-2 สัปดาห์ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณแผล ห้ามแผลโดนน้ำโดยเด็ดขาด หรือโดนกระแทกบริเวณใบหน้าและลำคอ เป็นเวลา 7 วัน
  • นอนศีรษะให้สูงเพื่อช่วยลดอาการบวมเป็นเวลาประมาณ 1 อาทิตย์
  • ควรทำความสะอาดแผลทุกวัน โดยใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือซับเบา ๆ บริเวณแผล
  • ใส่ที่ผ้ารัดหน้าหลังจากทำศัลยกรรมอย่างน้อย 3-5 วัน เพื่อช่วยพยุงแผลจากภายนอกอีกทาง หลังจากนั้นใช้ผ้ารัดเฉพาะบริเวณกลางคืนต่อเป็นเวลา 1 เดือน
  • งดรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารทะเล อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ วิตามินและอาหารเสริม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลาอย่างน้อย
  • งดกิจกรรม การออกกำลังกายทุกชนิด ที่จะทำให้กระทบกระเทือนแผล ประมาณ 2 อาทิตย์
  • ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัดดึงหน้า

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน มักจะเป็นผลมาจากการใช้ยาให้หลับหรือยาสลบ ในช่วงวันสองวันแรก อาจจะมีบริเวณใต้ผิวหนังซึ่งมีเลือดค้างอยู่ มักจะดีขึ้นเอง มีบางรายที่อาจต้องดูดออก อาจจะมีกล้ามเนื้อบางส่วนของใบหน้ายังทำงานไม่ได้ปกติ เช่น เวลายิ้ม หรือยักคิ้ว อาจจะไม่เท่ากัน มักจะดีขึ้นเองเมื่อเส้นประสาทและกล้ามเนื้อหายช้ำประมาณ 1-2 เดือน หลังผ่าตัด นอกจากนี้จะมีแผลเป็นบริเวณหลังหูอยู่นานหรือนูนได้ ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการทายาหรือฉีดยาเฉพาะที่ ส่วนในบริเวณผมอาจจะมีผมร่วงบริเวณผ่าตัดได้ แต่มักจะงอกขึ้นมาใหม่ในระยะ 2-3 เดือนหลังผ่าตัด


ปรับรูปหน้าให้เหมาะสมสวยงาม กระชากวัย ด้วยวิธีใดได้บ้าง

  • โบทูลินัม ท็อกซิน (botulinum toxin) 
    เหมาะสำกหรับริ้วรอยเหี่ยวย่นในคนที่อายุไม่มากนัก ผิวหนังไม่หย่อน คล้อยมาก การใช้ โบทูลินัม ท็อกซิน (botulinum toxin) จะหยุดการ ทําางานของกล้ามเนื้อ ที่แสดงอาการของใบหน้า ทําาให้ไม่เกิดริ้วรอย ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี หรือฉีดมากไปใบหน้าจะแข็ง ไม่แสดงความรู้สึก 
  • การใช้คลื่นพลังงาน
    การใช้คลื่นพลังงานชนิดต่าง ๆ ทําให้เกิดการบาดเจ็บในชั้นใต้ผิวหนัง โดยไม่ทําอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก แต่กระตุ้นให้เกิดพลังงานความร้อนขนาดที่เหมาะสม หรือคือการเผาเนื้อชั้นในโดยไม่ทําอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก จึงไม่เกิดร่องรอยที่ผิวหนัง  
    • Thermage
      คือการใช้คลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ทำให้เกิดความร้อนเผาใต้ชั้นผิวหนัง
    • HiFU/Ulthera
      ทั้งสองตัวนี้ใช้ high focus ultrasound คือ คลื่นเสียงความถี่สูง เป็นพลังงานกระตุ้นให้เกิดความร้อนเผาใต้ชั้นผิวหนัง บนตําแหน่งที่ต้องการ
  • การใช้ไหมในการยกกระชับใบหน้า
    การนําไหมก้างปลามาใช้ในการยกกระชับใบหน้า และแพร่หลายไปทั่วโลก จนมีการพัฒนาไหมชนิดใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อแก้ข้อด้อยของไหมก้างปลาที่ได้ผลระยะสั้น ๆ โดยเฉพาะทําให้มีการเกาะเกี่ยวที่แข็งแรงขึ้น เช่น ไหมรูปกรวย ไอศกรีม ไหมชนิดตาข่าย (mesh thread) และไหมรุ่นใหม่อีกหลายชนิด ที่มีก้างปลาแข็งแรงกว่าเดิม
  • เอ็นโดไทน์ (ENDOTINE)
    เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ความจริงมีหลักการเดียวกับไหมที่มีการเกาะเกี่ยว แต่ผลิตเป็นชิ้นที่ใหญ่กว่าไหมที่เราใช้อยู่ โดยทําจากวัสดุที่สามารถละลายได้เช่นเดียวกับไหมละลาย ทําเป็นชิ้นต่าง ๆ ตามชนิดของงาน เช่น Endotine Ribbon ใช้ยกหน้า, Endotine Brow ใช้ยกคิ้ว, หรือชนิดที่ใช้ยึดไหมเวลาดึงหน้าผากด้วยกล้อง 
  • การดึงหน้าเฉพาะส่วน หรือ การดึงหน้าโดยมีแผลขนาดเล็ก
    เป็นการผ่าตัดที่พัฒนามาเพื่อลดขนาดแผลผ่าตัด ให้มีการบวมน้อยลง และลดระยะเวลาการพักฟื้นหลังผ่าตัดมีศัพท์ทางการแพทย์ที่เรียกการผ่าตัดเหล่านี้ เช่น minilift, temporal lift, MACS lift etc. การผ่าตัดแบบนี้ไม่ใช่วิธีใหม่ ดังที่ศัลยแพทย์แต่ละคนพยายามจะดัดแปลงวิธีมาตรฐาน แล้วพยายามเรียกช่ือให้ดูแปลกใหม่ ดังที่เคยเป็นข่าวดัง เช่น face off, face lock เป็นต้น เพราะที่จริงแล้วชื่อเหล่านี้ไม่มีความหมายมาก เนื่องจากความจริง ก็คือการทำ face lift แบบหนึ่งเท่านั้น 
  • การผ่าตัดดึงหน้า (face lift) 
    เป็นวิธีมาตรฐานที่ได้ผลมากที่สุดแต่ก็จะบวม และมีการพักฟื้นนานที่สุดเช่นกัน โดยผู้ป่วยจะต้องมีแนวแผลผ่าตัดยาว จากไรผมบริเวณขมับ ผ่านหน้าหู มาจนถึงใต้ติ่งหู หรือหากมีการดึงส่วนคอร่วมด้วย ก็อาจจะเลยมาถึงหลังหู การผ่าตัดชนิดนี้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด และผลการผ่าตัดจะคงอยู่นานที่สุด เนื่องจากมีการตัดหนังส่วนเกินออกด้วย แต่ไม่ใช่ว่าจะอยู่นานเป็น 10 ปี 
  • ฟิลเลอร์ (Filler)
    การฉีดฟิลเลอร์ปิดร่องตาร่องแก้ม การฉีดฟิลเลอร์ต้องทำด้วยความระมัดระวัง และต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางที่ผ่านการฝึกอบรมมา เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ที่เกิดขึ้นหลายรายในเมืองไทย คือภาวะตาบอด เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
  • การฉีดไขมันที่หน้า
    ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันด้วยเหตุผลหลายประการคือมีความปลอดภัยเพราะไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมอีกทั้งได้ผลการเติมเต็มที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการพิสูจน์แล้วว่าไขมันเป็นส่วนที่สามารถสร้างสเตมเซลล์ที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหน้าได้

Q&A คำถามที่พบบ่อยสำหรับศัลยกรรมดึงหน้า

Q:การดึงหน้าสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่

A:การดึงหน้าสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ค่ะ อย่างเช่น การดูดไขมันเหนียง ศัลยบกรรมตา ยกคิ้ว หรือดึงคอ อย่างไรก็ตามศัลยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละคนค่ะ

Q:การดึงหน้าจะช่วยกำจัดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าได้ทั้งหมด หรือไม่

A:การผ่าตัดดึงหน้า คือหัตถการความงามที่ช่วยยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนบนใบหน้าให้ดีขึ้น อาจไม่สามารถกำจัดริ้วรอยความหย่อนคล้อยบนใบหน้าที่เกิดขึ้นตามวัยได้ทั้งหมด แต่สามารถเลือกดึงได้ตามสภาพผิวหน้า ดึงหน้าเฉพาะจุดหรือบางส่วนได้ค่ะ

Q:อายุเท่าไหร่ จึงจะเหมาะกับการดึงหน้า

A:จริงๆแล้วการดึงหน้า ไม่มีข้อจำกัดตายตัว ทั้งนี้ทำขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของผิว โครงสร้างใบหน้าและเป้าหมายของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยและต้องการดึงหน้า มักมีอายุตั้งแต่ 40-70 ปีค่ะ 


ศัลยกรรมที่เกี่ยวข้อง